Volkswagen อาจปิดโรงงานในเยอรมนีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ดูเหมือนว่าตลาดรถกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ซ หากค่ายไหนปรับตัวไม่ทันก็จะตกขบวน และล่าสุดมีข่าวน่าตกใจเพราะ Volkswagen Group กำลังพิจารณาขั้นตอนสำคัญในการลดต้นทุน มีรายงานว่ากลุ่มบริษัทในเยอรมนีกำลังพิจารณาการปิดโรงงานสองแห่งในเยอรมนี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่บริษัทก่อตั้ง สงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อตั้งในปี 1937

โรงงานในเดรสเดนและออสนาบรุค อาจจะอยู่ในรายชื่อโรงงานที่ต้องปิด ตามข้อมูลของออโต้คาร์ โรงงานในออสนาบรุคกำลังสร้างรถปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ และ เคย์แมน ซึ่งจะเลิกผลิตในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม มันเป็นโรงงานที่ผลิตรถยนต์เฉพาะกลุ่มด้วยยอดขาย 6,110 คันเท่านั้น ส่วนโรงงานในเดรสเดนเป็นโรงงานขนาดเล็กกว่าโดยสร้างขึ้นเพื่อผลิตรถ Phaeton และปัจจุบันกำลังประกอบรถรุ่น ID.3

นอกเหนือจากการปิดตัวลงแล้ว โครงการการจ้างงานของบริษัทยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียดอีกด้วย โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1994 และมีระบบป้องกันการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมไปจนถึงปี 2029 ดังที่คุณอาจจินตนาการได้ว่า IG Metall สหภาพแรงงานในเยอรมนีไม่พอใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะอาจจะมีคนงานที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายลดต้นทุนด้วยการปิดโรงงานประกอบ

ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ Volkswagen Group รายงานตัวเลขยอดขายที่เป็นบวกอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ตลาดยุโรปเพิ่มขึ้น 1.9 เปอร์เซ็นในขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.0 เปอร์เซ็นต์ แฃะ อเมริกาใต้ทำยอดเพิ่ม 15.4 เปอร์เซ็นต์ เปอร์เซ็นต์ แต่ในเอเชีย ลดลง 8.2 เปอร์เซ็น

เรื่องราวที่ใหญ่กว่านี้อาจเป็นความไม่แน่นอนในตลาด EV ยอดขายของหลายแบรนด์ลดลงเช่นเดียวกับแผนการขยายธุรกิจระบบไฟฟ้า และ VW Group ซึ่งกำลังวางเดิมพันครั้งใหญ่ในอนาคตที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดกำลังดิ้นรนตลอดครึ่งปีแรก ในปี 2024 บริษัทรายงานว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปลดลง 15.2 เปอร์เซ็นต์ และในสหรัฐอเมริกาลดลง 15.4 เปอร์เซ็นต์

ที่มา Motor1