ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดตัวรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ (รถบรรทุกขนาดใหญ่) และ โครเนอร์ (รถบรรทุกขนาดกลาง) มาตรฐานยูโร 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อสร้างกำไรให้มากขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสนองนโยบายรัฐบาล ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567
ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น อยู่ในอุตสาหกรรมรถบรรทุกมายาวนานกว่า 89 ปี และเป็นผู้นำในเรื่องของนวัตกรรมในรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์เสมอมา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น และตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก มาโดยตลอด เช่น ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่กลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ทางยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในด้านนวัตกรรมลดการปล่อยไอเสียสู่ชั้นบรรยากาศ และได้ดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 สู่ตลาดต่างประเทศแล้วในหลายประเทศทั่วโลก
เอริก ลาบาต์ (Eric Labat) ประธานกรรมการ บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
“ภายใต้แผนดำเนินการนี้ โรงงาน Bangkok plant ของยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ได้ทำการผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ สำหรับจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก โดยทำการผลิต และส่งออกรถบรรทุกทั้งยูดี เควสเตอร์ และโครเนอร์ มาตรฐานยูโร 5 ตั้งแต่ปี พศ. 2564 ไปยังประเทศอื่น ๆ อาทิ ประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง และอื่นๆ
ดังนั้นเราจึงมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มีสมรรถนะสูงขึ้น และการปล่อยไอเสียที่สะอาดกว่าเดิมสู่ตลาดประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction – SCR ในการบำบัดมลพิษไอเสีย ซึ่งเป็นการฉีดน้ำยา Adblue เข้าไปในระบบเพื่อทำปฏิกิริยากับก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ในไอเสีย และเปลี่ยนเป็นก๊าซไนโตรเจน และไอน้ำ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ ซึ่งยูดี ทรัคส์ คือผู้ผลิตรถบรรทุกเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction (SCR) มาใช้ตั้งแต่ปี 2004 ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้คิดค้นและพัฒนาระบบเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาเครื่องยนต์ให้มีความทนทาน และใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมถึงลดต้นทุนการบำรุงรักษารถ และให้สมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มกำลัง”
มร. เอริก กล่าวเพิ่มเติมว่าการนำเสนอรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 ที่มีการนำเทคโนโลยี SCR มาใช้ จากการทดสอบแล้วในต่างประเทศจะสามารถช่วยลด ไนโตรเจนไดออกไซด์หรือ ก๊าซมลพิษทางอากาศลง 60% และฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับรถบรรทุกในมาตรฐานยูโร 3
นอกจากที่มีเทคโนโลยี SCR ในรถรุ่นมาตรฐานยูโร 5 แล้ว ทางยูดี ทรัคส์ยังได้นำเสนอคุณสมบัติ หรือฟีเจอร์ใหม่ อาทิ เช่น ขุมพลังแรงม้าใหม่ในรุ่นเควสเตอร์ เกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot ที่มีแรงม้า 410 และ 460 แรงม้า ให้เลือก โดยยังคงรักษาจุดเด่นในการให้แรงบิดสูงเป็นช่วงกว้างที่รอบต่ำ ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลื่นไถลขณะเข้าโค้ง (Electronic Stability Control – ESC) และ มีสวิตซ์ตัดแบตเตอรี่ 2 จุด (ADR2) ตามมาตรฐานความปลอดภัยเพื่องานขนส่งน้ำมันและวัตถุอันตราย และอื่นๆ
มร. เอริก กล่าวปิดท้ายว่า “ในปีที่ผ่านมา ยูดี ทรัคส์มียอดตัวเลขจดทะเบียนรถบรรทุกสะสมเติบโตขึ้น กว่า 47% และเรามีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนขณะนี้เรามีตำแหน่งเป็นเบอร์ 3 ของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทย เราจึงเชื่อมั่นว่ารถบรรทุกยูดี มาตรฐานยูโร 5 นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดี จากกลุ่มธุรกิจงานขนส่งเช่นกัน และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัว เรายังมีข้อเสนอสุดพิเศษมอบให้ลูกค้าที่สนใจทำการจองภายในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคมนี้ จะได้รับฟรีแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะ 2 ปี พร้อมด้วยน้ำยา Adblue 1000 ลิตร สำหรับรถยูดี เควสเตอร์ และ ฟรีแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะ 1 ปี พร้อมด้วยน้ำยา Adblue 500 ลิตร สำหรับรถยูดี โครเนอร์ อีกด้วย”