เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ (The Distinguished Gentleman’s Ride) นับเป็นงานการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับผู้ชื่นชอบรถจักรยานยนต์คลาสสิก และวินเทจ โดยได้รับการสนับสนุนหลักจาก Triumph Motorcycles ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยสร้างความตระหนักรู้ และระดมทุนเพื่อนำไปสนับสนุน ช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต รวมถึงการวิจัยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย
สำหรับงานปีนี้ DGR ได้เชิญชวนนักบิดจากทั่วโลกมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการขับขี่ให้ได้ 1,000 เมืองทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องไปกับแคมเปญ Side by Side, Worldwide ทั้งนี้เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวไทรอัมพ์ จึงได้ทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วโลก ในการเป็นเจ้าภาพเพื่อเชิญชวนนักบิดมาเข้าร่วมในการขับขี่ให้มากขึ้นในปีนี้ และเพื่อจุดประกายให้นักบิดทุกคน ร่วมระดมเงินบริจาคให้กับมูลนิธิโมเวมเบอร์ (Movember) ในโครงการสนับสนุน และช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต รวมถึงการวิจัยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากของเพศชาย ทาง ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์จะมอบรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ Triumph Thruxton Final Edition ให้กับผู้ระดมทุนสูงสุดถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากกับที่จะได้ครอบครองอีกหนึ่งรถจักรยานยนต์แห่งประวัติศาสตร์คันนี้
Triumph Thruxton Final Edition ได้รวมความเป็นสุดยอดของรถจักรยานยนต์สไตล์ Cafe Racer เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งช่วยดึงดูดความสนใจของทุกคนที่งาน DGR ได้เป็นอย่างดี โดย Triumph Thruxton Final Edition คือผลลัพธ์จากการพัฒนาของ Thruxton ที่ส่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามในเฉดสี Competition Green สุดพิเศษ โดยมีเส้นขอบสีทองที่วาดด้วยมือ ที่มาพร้อมลายเซ็นของศิลปินผู้วาด ทำให้รถจักรยานยนต์ Triumph Thruxton Final Edition นับเป็นการผสมผสานทั้งสไตล์ และความสง่างามแบบดั้งเดิมของ Thruxton RS เพื่อแสดงความเคารพต่อมรดกทางด้านการแข่งรถอันยาวนานของ Thruxton
และเพื่อให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่นักสะสม และเหล่าแฟนพันธุ์แท้พึงปรารถนา Triumph Thruxton Final Edition จึงมาพร้อมกับใบรับรองผลิตภัณฑ์ของแท้ พร้อมหมายเลข VIN ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ ลงนามโดยสมาชิกของทีมออกแบบ Thruxton 1200 และ มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ รวมถึงตราสัญลักษณ์เครื่องยนต์ Final Edition ที่วาดด้วยขอบสีทองและกราฟิก ‘Final Edition’ ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวคอลเลคชันเสื้อผ้าใหม่ที่ DGR และ Triumph ได้เปิดตัวร่วมกันเพื่อสนับสนุนการขับขี่ในปีนี้ อีกทั้งในปี 2024 ยังได้เปิดตัว Team Triumph ซึ่งเป็นกลุ่มนักขี่โดยเฉพาะขึ้นมา ดังนั้นผู้เข้าร่วมงานทุกคนจึงมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลระดับโลก เพื่อช่วยกันระดมทุนสนับสนุน และช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต รวมถึงการวิจัยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย โดยผู้ระดมทุนสูงสุด 5อันดับแรกของกลุ่มจะได้รับรางวัลเป็นเสื้อผ้า Triumph X DGR
พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายสูงสุดในการจัดงานDGR ปี 2024 คือ การรวบรวมนักบิดเข้าร่วมขับขี่ให้มากขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อช่วยกันระดมทุนที่มากขึ้นสำหรับการสนับสนุน และช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต และมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย เรากำลังทำงานเคียงข้างกับ DGR และเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วโลกที่กำลังเติบโตของเรา เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่จะเข้าถึง 1,000 เมืองทั่วโลก
โดยในปีนี้เราจะมอบรางวัลให้กับผู้ระดมทุนสูงสุดด้วยรถจักรยานยนต์ Triumph Thruxton Final Edition อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการมอบรางวัลเสื้อผ้าสุดพิเศษจำนวน 5 รางวัล ให้กับผู้ที่ระดมทุนใน Team Triumph ด้วยวิธีเหล่านี้ เราหวังว่าจะได้เห็นการรวมตัวกัน ไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขับขี่ไทรอัมพ์ที่มีอยู่ทั่วโลกในการเป็นส่วนหนึ่งของ Team Triumph แต่งกายให้ดูดีสไตล์ Dapper ช่วยกันระดมทุนเพื่อการกุศล และสนุกไปกับการขับขี่พร้อมกันในวันที่ 19 พฤษภาคม 2024 ที่จะถึงนี้”
มาร์ค ฮาววา ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการ เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ (The Distinguished Gentleman’s Ride) กล่าวว่า “ในปี 2024 เราได้ตั้งเป้าหมายที่จะเข้าถึง 1,000 เมืองทั่วโลก เราเริ่มการขับขี่ไปพร้อมกันทั่วโลกตั้งแต่ปี 2012 โดยชุมชนของเราถือเป็นชุมชนที่เป็นการรวมตัวกัน แม้ว่าจะมีพรมแดน และมหาสมุทรมาขวางกั้น แต่เราขับขี่เคียงข้างกัน เพื่อระดมทุนที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพจิต และมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย ดังนั้น DGR 2024 เป็นปีที่เราจะร่วมเฉลิมฉลองเพื่อนสุภาพบุรุษทั่วโลกที่เราร่วมขับขี่เคียงข้างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากความหลงใหล และขับเคลื่อนผ่านจุดประสงค์เดียวกัน”
นอกจากนี้แบรนด์ Hedon Helmets, ELF Lubricants และ Quad Lock ก็ยังจะกลับมาร่วมกิจกรรมการกุศลที่ได้รับแรงบันดาลใจสุดคลาสสิกอีกครั้ง เพื่อเป็นการตอบแทนแก่ผู้ระดมทุนประจำปีนี้อีกด้วย