ข่าวร้ายยังคงเกิดขึ้นกับพนักงานของ Stellantis บริษัทที่มีรถในเครือมากมาย โดยคราวนี้เป็นการปลดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการประกาศเลิกจ้างพนักงานอีกครั้ง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่บริษัทรถยนต์เปิดเผยแผนการเลิกจ้างพนักงาน 1,139 คนใน Toledo Assembly Complex บริษัท Stellantis ก็ได้ยืนยันการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติมอีก 400 คนในโรงงานโลจิสติกส์วัสดุบนถนน Freud Street ในเมืองดีทรอยต์
พนักงานที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นตัวแทนของสหภาพแรงงานรถยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา (UAW) เป็นส่วนหนึ่งของโรงงานที่จัดหาสินค้าให้กับโรงงานใน Detroit Assembly Complex ของ Stellantis การเลิกจ้างดังกล่าวมีกำหนดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2025
ขณะที่ Stellantis กำลังเดินหน้าสู่ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน จุดเน้นอยู่ที่การปรับโครงสร้างการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา ใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าจะเริ่มต้นปี 2025 ได้อย่างแข็งแกร่ง” แอนน์ มารี ฟอร์ทูเนต (Ann Marie Fortunate) โฆษกของบริษัทกล่าวในแถลงการณ์ต่อ The Detroit Free Press “เพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของการดำเนินงาน บริษัทจะโอนโรงงานจัดลำดับยีนของ Freud Street ให้กับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานประมาณ 400 คนต้องถูกเลิกจ้างอย่างไม่มีกำหนด
บริษัทไม่ได้ปล่อยให้พนักงานต้องตกงานโดยสิ้นเชิงอย่างน้อยก็ไม่ใช่ในทันที พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินช่วยเหลือการว่างงานเพิ่มเติมหนึ่งปีและเงินชดเชยการว่างงานของรัฐซึ่งคิดเป็น 74% ของเงินเดือนปัจจุบันของพวกเขา พร้อมด้วยความคุ้มครองด้านการดูแลสุขภาพฟรีสองปี
ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่าปัญหาของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Stellantis เพราะนอกจากการปลดคนงานแล้ว ยังมีราคาหุ้นที่ตกต่ำ และสินค้าคงคลังที่เพิ่มสูงขึ้น และทาง Stellantis ได้ประกาศการเปลี่ยนผู้บริหาร โดย ในเดือนตุลาคม คาร์ลอส ตาบาเรส (Carlos Tavares) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะเกษียณอายุในปี 2026 และ อันโตนิโอ ฟิโลซ่า ( Antonio Filosa) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Jeep ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของอเมริกาเหนือ
การเคลื่อนไหวเหล่านี้บ่งชี้ว่าบริษัทกำลังพยายามทำให้การเงินของบริษัทมั่นคงขึ้น ก็ต้องดูกันต่อไปว่าการจะมีการแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่
ที่มา Carscoops