OMODA & JAECOO ลุยสนามออฟโรด ทดสอบ JAECOO 6 EV พร้อมให้ลองขับขี่ และจองสิทธิ์เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ

โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จัดลุยทดสอบ JAECOO 6 EV รถไฟฟ้าพรีเมี่ยมออฟโรด ที่มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนสุดแกร่ง ผสานดีไซน์สุนทรียะที่สวยงาม ในสนามออฟโรดของจริง ณ สนามสปิริทแอดเวนเจอร์ (Spirit Adventure Ground) จังหวัดนครนายก เพื่อโชว์สมรรถนะของตัวรถแบบออฟโรด ผ่านสถานีสุดหินต่างๆ รวมถึงการขับขี่บนถนนจริง ซึ่ง JAECOO 6 EV ทำออกมาได้ดีเยี่ยม รับคำชมจากผู้ทดสอบอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะความสามารถในการลุยเส้นทางออฟโรด ขณะเดียวกันก็ขับสนุกบนพื้นถนนทั่วไปอีกด้วย

นอกจากนี้ ในการเทสต์ไดรฟ์ในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมทดสอบยังได้ลองขับรถ OMODA C5 EV รถ SUV ไฟฟ้า 100% แบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู บนถนนจริง ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ทั้งในเมือง และนอกเมือง เพื่อช่วยยืนยันอีกเสียงว่า OMODA C5 EV คือรถ SUV ที่เหมาะสำหรับทุกคน และทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต สำหรับผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายกว่า 23 แห่งทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษอีกมากมายเมื่อจองวันนี้

สำหรับการทดลองขับขี่รถไฟฟ้า JAECOO 6 EV ในสนามขับขี่ออฟโรด ผ่านสถานีสุดหินต่างๆ อาทิ ทดสอบการทำงานระบบขับเคลื่อน i-WD ที่กระจายแรงไปยัง 4 ล้อ ในโหมดการขับขี่ต่างๆ, การทดสอบ Ground Clearance ระดับความสูงของตัวรถ และพื้น ผ่านการลุยน้ำที่สูงถึง 60 เซนติเมตรได้อย่างปลอดภัย, สมรรถนะของรถในส่วนของการทรงตัวรถ, การควบคุมความเร็ว, การขับลงเนินลาดชัน และความนุ่มนวลของช่วงล่าง บนพื้นถนนรูปแบบต่างๆ ทั้ง On-Road และ Off-Road  รวมไปถึงประสบการณ์ทดลองใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ของตัวรถ ทั้งระบบเสียง เบาะคนขับ และผู้โดยสารที่มีระบบความปลอดภัยครบถ้วน และใช้งานง่าย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่

ผู้ขับขี่ที่ได้มีโอกาสทดสอบในสนามวันนี้ กล่าวถึงรถยนต์ JAECOO 6 EV ว่า “ได้สร้างความประทับใจตั้งแต่ดีไซน์ของรถที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม ดูโมเดิร์น และสะดุดตา แต่พอได้มาขับกลับมีความคล่องตัวสูง สมรรถนะคุ้มราคา โดยเฉพาะในโหมดออฟโรด ลุยในสนามทดสอบ JAECOO 6 EV ที่โชว์สมรรถนะช่วงล่าง และการทรงตัวของรถเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งบางช่วงของสนามออฟโรด โหมดการขับขี่ที่เหนือชั้น และอัจฉริยะของรถ JAECOO 6 EV ทำให้ได้รับความรู้สึก และประสบการณ์ที่แตกต่างจากการขับรถออฟโรดทั่วไปอย่างมาก”

นอกจากนี้ ในงานนี้ ผู้ทดสอบยังได้ลองขับ OMODA C5 EV บนถนนจริง ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ทั้งถนนใหญ่ในเมือง ถนนทางหลวง รวมถึงถนนสายเล็กๆ นอกเมือง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า รถยนต์ SUV คันนี้เหมาะสำหรับทุกสภาพถนนและทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่จริงๆ

“OMODA C5 EV เป็นประสบการณ์การขับขี่ที่มากกว่าการขับรถ ด้วยตัวรถที่เป็นรถไฟฟ้า มีการออกแบบที่ซัพพอร์ตทั้งช่วงล่างของรถที่ดีมาก เทคโนโลยีต่างๆ แบบจัดเต็ม รวมไปถึงการออกแบบภายใน เช่น การมีกระจกแบบลดเสียงรบกวน ลำโพง SONY เสียงกระหึ่ม ทำให้การขับขี่บนถนนจริงทั้งในเมือง และเส้นทางระยะไกลข้ามจังหวัดสะดวกสบายอย่างมาก ตัวรถมีความคล่องตัว อัตราเร่งที่ดี มีกล้อง 540 องศาช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่ช่วยในการขับขี่ระยะยาว อาทิ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้า ระบบช่วยเบรก ซึ่งคิดว่าถ้าทุกคนได้ลองสัมผัสต้องตกหลุมรักรถคันนี้แน่ๆ” ตัวแทนผู้ขับขี่ OMODA C5 EV เล่าความรู้สึกจากการขับขี่

สำหรับรถ OMODA C5 EV เป็นยนตรกรรม EV 100% ที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับ 17+1 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ ADAS+DMS พร้อมทั้งฟังก์ชั่นความปลอดภัย และความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น OMODA C5 EV Long Range Plus ที่มีสี Lunar White, Space Black และ Mercury Grey ราคา 899,000 บาท และรุ่น OMODA C5 EV Long Range Ultimate ที่มีสี Lunar White (Black Roof), Space Black, Mercury Grey, Volcanic Red และ Mint Green (Black Roof) ราคา 949,000 บาท

และสำหรับรถ JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมี่ยมพลังงานไฟฟ้า 100% ที่อัดแน่นไปด้วยพลังสุดแข็งแกร่ง และสุนทรียะที่งดงาม ด้วยการออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ทรงลูกบาศก์หลากมิติ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับผู้ขับขี่ กับโหมดการขับขี่ 6 แบบ ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และการขับขี่แบบสมบุกสมบัน มีโหมดตั้งแคมป์อัจฉริยะ ฟังก์ชั่นสำหรับวางแผนการเดินทางแบบยืดหยุ่น 4+2 โดยมี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น JAECOO 6 EV Long Range 2WD ราคาคาดการณ์ 1,099,000 บาท และรุ่น JAECOO 6 EV Long Range 4WD ราคาคาดการณ์ 1,249,000 บาท พร้อมข้อเสนอ และโปรโมชั่นสุดพิเศษ

อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ได้คิกออฟส่งรถ JAECOO 6 EV ออกจากเมืองอู๋หู่ ประเทศจีน มุ่งหน้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมที่จะถึง โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ Garmin เป็นสปอนเซอร์หลักของงาน Garmin Run Asia Series 2024 Thailand Half Marathon ซึ่งตอนนี้ยังสนใจรับสมัครนักวิ่งเข้าร่วมอยู่ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะชูจุดเด่นของ JAECOO 6 EV ให้กับผู้สนใจผ่านกิจกรรมมาราธอนในครั้งนี้ และยังร่วมมือผลิตนาฬิกา Garmin รุ่นเอ็กซ์คลูสีฟ JAECOO | Garmin Forerunner 165 สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย 1,000 คนแรกอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจ โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย มอบโปรโมชั่น และข้อเสนอสุดพิเศษกับเอกสิทธิ์เฉพาะ สำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จองรถ OMODA C5 EV และจองสิทธิ์ JAECOO 6 EV ด้วยข้อเสนอการผ่อน OMODA C5 EV เริ่มต้นเพียง 9,490 บาท ต่อเดือน* และสิทธิพิเศษอีกมากมาย ลงทะเบียนนัดหมายเพื่อทดลองขับที่ผู้จำหน่าย โอโมดา แอนด์ เจคู ใกล้บ้าน ได้ที่ https://nam.dcv.ms/11chRIoUre หรือมาทดลองขับ OMODA C5 EV ที่งาน OJ Driving Experience วันที่ 14 – 15 กันยายน ที่ IMPACT Lakeside 3 เมืองทองธานี