การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรถ EV สร้างความกดดันให้กับเครือข่ายการชาร์จและเป็นปัญหาที่ต้องเร่งหาวิธีแก้ไข เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2024 Nio และ Geely Group ได้ประกาศความร่วมมือในการเชื่อมต่อโครงข่ายการชาร์จ ผู้ใช้รถยนต์ของ Geely สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสถานีชาร์จของ Nio และดำเนินการต่าง ๆ ได้ เช่น การสแกนเพื่อชาร์จและชำระเงินผ่านแอปของแบรนด์
ตามรายงาน “McKinsey 2024 China Automotive Consumer Insights” จังหวัดและเมืองที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจมีอัตราส่วนของ EV ใหม่ต่อสถานีชาร์จสาธารณะที่ต่ำกว่าพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งช่วยบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานในการชาร์จในภูมิภาคเหล่านั้นได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากในจังหวัดและเมืองต่าง ๆ ส่งผลให้สถานการณ์ทรัพยากรการชาร์จมีความตึงเครียดมากขึ้น
Nio ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำกำลังพัฒนาเครือข่ายการชาร์จ บริษัทได้สร้างความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนแบตเตอรีกับบริษัทต่าง ๆ และวางแผนที่จะสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี 1,000 แห่ง โดยร่วมมือกับ Zhongan Energy ภายในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Nio ได้สร้างสถานีแลกเปลี่ยนแล้วมากกว่า 2,000 แห่ง
นอกจากนี้ มีการประกาศว่า Nio ได้ลดค่าธรรมเนียมสำหรับโปรแกรมเปลี่ยนแบตเตอรี โมเดล BaaS (battery-as-a-service) ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดของ Nio โดยผู้ใช้บางคนชื่นชมโปรแกรมนี้ ในขณะที่บางคนอ้างว่ามันไม่สามารถใช้งานได้จริงในวงกว้าง
Nio เสนอสองทางเลือกสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ ได้แก่ การซื้อแบบมาตรฐานและการสมัครสมาชิก ซึ่งบริการแบบสมัครสมาชิกมีการลดราคาเป็นครั้งแรก ทำให้มีราคาไม่แพงมากและพร้อมให้บริการย้อนหลังแก่สมาชิก ส่วนการสมัครสมาชิกระดับแรกตอนนี้มีราคา 582 หยวน (ประมาณ ฿3,000) ลดลงจาก 728 หยวน (ประมาณ ฿3,800)
การร่วมมือกันระหว่าง Nio และ Geely ในเครือข่ายการชาร์จอาจทำให้เกิดแนวโน้มสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในการเปิดสถานีชาร์จเฉพาะให้กับแบรนด์อื่น ๆ อย่างเช่น Tesla ที่ได้เริ่มดำเนินการดังกล่าวแล้วด้วยการเปิดเครือข่ายการชาร์จให้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ Tesla และขยายขนาดของสถานีชาร์จที่ใช้ร่วมกัน
การเปิดสถานีชาร์จถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการชาร์จ นำไปสู่การใช้ทรัพยากรได้ดีขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาเครือข่ายการชาร์จที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้สำหรับเจ้าของ EV ทุกคน มีแนวโน้มว่าความร่วมมือเพิ่มเติมระหว่างผู้ผลิตรถยนต์จีนจะตามมาอย่างแน่นอน
อ้างอิง CarNewsChina.com