MG4 Electric X Power

MG ตอกย้ำความสำเร็จ ส่ง MG4 Electric X Power ลุยตลาดประเทศไทย

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดเกมตลาด EV สุดร้อนแรงในปี 2567 ตอกย้ำความสำเร็จทั้งรางวัล และยอดขายของ MG4 Electric  ด้วยการเปิดตัวรุ่น X Power ในฐานะ Hatchback พลังงานไฟฟ้า 100%

ตัวแรงของจาก MG ตามมาตรฐาน เพื่อสร้างประสบการณ์ครั้งใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก และเร้าใจเหนือใครในคลาส ด้วยสมรรถนะขั้นสูงจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า ซึ่งสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที

MG4 Electric X Power

MG4 Electric ถือเป็น Global EV ของ MG ที่ประสบความสำเร็จโดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยรางวัลโมเดลยอดเยี่ยมแห่งปีทั้งใน และต่างประเทศ สามารถสร้างยอดขายรวมที่มีมากถึงกว่า 140,000 คัน ครอบคลุมทั้งในตลาดยุโรปออสเตรเลีย รวมถึงประเทศไทย ซึ่งทำยอดขายรวมมากกว่า 7,000 คัน โดย MG4 Electric ถือเป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ของ MG ที่จะเข้ามาสร้างสีสัน และนำเสนอความเหนือชั้น เพื่อผลักดันตลาด EV ในไทยไปสู่อีกระดับ ประเดิมด้วยประสบการณ์ EV ครั้งใหม่จาก MG4 Electric  X Power

MG4 Electric X Power

MG4 Electric X Power ยังคงความเป็น “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้านตั้งแต่การเป็นยนตรกรรมที่พัฒนาบน Nebula Pure Electric Platform ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เหนือกว่าด้วยการเป็น EV สมรรถนะสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ใช้เทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 kWh สามารถทำระยะทางวิ่งได้ไกลสูงถึง 480 กิโลเมตร(ตามมาตรฐาน NEDC)

MG4 Electric X Power

มาพร้อมจุดเด่นของ MG4 Electric เช่น การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50, ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) กับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทำให้ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนดียิ่งขึ้น เพิ่มเติมระบบ One Pedal  เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น ตลอดจนคำนึงถึงผู้ใช้รถด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System ครอบคลุม 23 ระบบ

สะกดทุกสายตากับงานออกแบบภายนอกเน้นความสปอร์ตตัวถังโทนสีเขียวใหม่ (Wild Hunter Green) พร้อมด้วยหลังคาแบบทูโทน (Blacktop), ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว และคาลิปเปอร์เบรกสีส้มสุดร้อนแรง ขณะที่ภายในห้องโดยสารมากับโทนสีดำ เสริมความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ ที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์ และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara) ตลอดจนเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับระบบอัจฉริยะ Intelligent Smart Access ที่คนขับสามารถเหยียบเบรก แล้วระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ ทั้งยังช่วยให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–Smart เต็มฟังค์ชั่น

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นในเรื่องการบุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และได้นำ Global Model อย่าง MG4 Electric เข้ามาขายในประเทศไทยในช่วงเวลาใกล้เคียงกับตลาดยุโรป

ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา MG4 Electric ถือเป็นรุ่นที่ทำให้เราได้รับรางวัล “Thailand EV of the Year 2023” เป็นครั้งแรกจาก สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย ฉะนั้นการเพิ่มรุ่น X Power ในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ เอ็มจี ตั้งใจ จะนำรถไฟฟ้าสมรรถนะสูงเข้ามาเติมเต็ม EV Portfolio ในประเทศไทย

MG4 Electric X Power

ด้วยจุดเด่นหลักของรถที่มีการนำเทคโนโลยี EV สมรรถนะขั้นสูง พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับจูนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ได้อย่างสมดุลย์ และยังเป็นการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความเร็ว และความแรงที่เหนือกว่าของรถ EV อีกด้วย

MG4 Electric X Power

โดยเราเชื่อมั่นว่าด้วยความแตกต่าง และไม่เหมือนใครนี้ จะทำให้ MG4 Electric X Power ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถยกระดับมาตรฐานรถ EV สู่อีกขั้น ทั้งยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ MG ในการทำตลาด EV ด้วยการนำเสนอ และเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง”

MG4 Electric X Power

MG4 Electric X Power พร้อมเผยโฉมจริงอย่างเป็นทางการ ให้คนไทยได้สัมผัสกับความเร็ว และแรงครั้งใหม่ ในงาน MG Everyday Electric  ระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคมนี้ ที่ ลานโปรโมชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และมีกำหนดเปิดตัวสู่สาธารณชน พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มีนาคม ณ งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45