ในวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ณ งาน Beijing International Automotive Exhibition 2024 ที่ทุกคนทั่วโลกรอคอย ได้เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกแห่งพลังงานใหม่ รถยนตร์แบรนด์ JAECOO ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Energy, New Eco, New Era” ได้เผยโฉมรุ่น JAECOO 7 PHEV และ JAECOO 8 PHEV อย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งการเปิดตัวรถทั้ง 2 รุ่นในงานนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำ การเดินทางเข้าสู่โลกแห่งพลังงานใหม่ของแบรนด์ JAECOO ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และระบบนิเวศแบบใหม่
หลังจากที่ได้เปิดตัวแบรนด์ JAECOO ไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว วันนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เปิดตัว JAECOO 7 PHEV ยนตรกรรมออฟโรดระดับไฮเอนด์สมรรถนะสูง และ JAECOO 8 PHEV ยนตรกรรมออฟโรด ที่มอบความหรูหราเหนือระดับที่มากกว่าผ่านแนวคิด “From Classic, Beyond Classic” ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลกได้สัมผัส
โดยในปีที่ผ่านมานั้น JAECOO ได้เปิดตัวแบรนด์ไปแล้วอย่างเป็นทางการใน 12 แห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปตะวันออก, เม็กซิโก, แอฟริกาใต้ รวมถึงซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นรถในดวงใจของผู้ขับขี่สายออฟโรดเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า “กำเนิดมาเพื่อพลังงานใหม่ – Born for New Energy” ทำให้รถยนต์แบรนด์ JAECOO ตั้งมั่นตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้อย่างหนักแน่น ผ่านนวัตกรรมที่สร้างมาเพื่อทะลุขีดจำกัดของผลิตภัณฑ์
ซึ่งในงาน Beijing International Automotive Exhibition ครั้งนี้ JAECOO ได้เผยโฉม JAECOO 7 PHEVและ JAECOO 8 PHEV อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดด้านยนตรกรรมของ JAECOO เลยทีเดียว นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะนำพาตลาด เอสยูวี ออฟโรดเข้าสู่ยุคใหม่ ในฐานะรถขับเคลื่อน 4 ล้อพลังงานใหม่
รถยนต์รุ่น JAECOO 7 PHEV ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยระบบอัจฉริยะ All Road Drive Intelligent System (ARDIS) ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ของพลังงานใหม่ JAECOO 7 PHEV ที่มาพร้อมกับระบบขับขี่อัจฉริยะ 7 รูปแบบ ตามสภาพภูมิประเทศ อาทิ ทะเลทราย ดินโคลน และหิมะ ทั้งยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมที่เหนือชั้น 6 มิติ ได้แก่ Power Mode, Energy Efficiency&Low Carbon, Ultimate Safety, All-Wheel Off-Roading, Smart Technology และ Outdoor Living ซึ่งถือเป็นการทำลายกรอบ และขีดจำกัดทางด้านเทคโนโลยของรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่
ขณะเดียวกัน รุ่น JAECOO 8 PHEV ไม่เพียงแค่นำเสนอประสบการณ์ออฟโรดที่หรูหราของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น แต่ยังก้าวไปถึงจุดสูงสุดของตลาดรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มออฟโรดไฮบริด เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ JAECOO ส่งผลให้สมรรถนะของ JAECOO 8 PHEV ทั้งเรื่องของการควบคุมการขับขี่ พลังงาน และการขับแบบออฟโรด มีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งจากการเปิดตัว JAECOO 7 PHEV และ JAECOO 8 PHEV ไฮบริดทั้ง 2 รุ่นนี้ JAECOO ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้เปลี่ยนแปลงคุณค่าของตลาดรถยนต์ออฟโรดพลังงานใหม่ ส่งมอบความอัจฉริยะที่เหนือกว่า ประสิทธิภาพที่สูงกว่า และประสบการณ์ออฟโรดที่ปลอดภัยมากกว่า ให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลก พร้อมกับตอกย้ำถึงก้าวสำคัญทางเทคโนโยลีพลังงานใหม่ของ JAECOO อีกด้วย
จากการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของโลกใบนี้ ทำให้ JAECOO ไม่คิดจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยแบรนด์ได้มีการปรับใช้ทรัพยากรระดับโลก ปรับเปลี่ยนการทำงานของแต่ละพื้นที่ให้เข้ากับท้องถิ่นนั้นๆ การสร้างระบบเครือข่ายด้านการขาย และบริการที่ทุ่มเท และเป็นอิสระ รวมถึงการช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยในงาน Beijing International Automotive Exhibition ครั้งนี้ แบรนด์ JAECOO ยังได้เปิดเผยกลยุทธ์ระดับโลก ในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าอย่างเต็มรูปแบบให้กับ ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการบริการ พร้อมกับทำให้อุตสาหกรรมออฟโรดพลังงานใหม่ระดับโลกได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างจริงจัง
หากเปรียบรถยนต์เป็นเหมือนพาหนะของเทคโนโลยี ชีวิตของผู้ขับขี่ก็เหมือนเวทีแสดงฝีมือของรถยนต์ โดยแบรนด์ JAECOO ไม่เพียงแค่มุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ และงานบริการที่ดีกว่าเท่านั้น แต่ยังสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลให้กับผู้ใช้ ที่เป็นมากกว่าการขับขี่รถยนต์ ซึ่งในงานสัมมนานิเวศวิทยานานาชาติ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกได้ร่วมเป็นสักขีพยานที่ JAECOO ได้ฉีกกรอบแบบเดิมๆ ด้วยการแสดงแผนด้านนิเวศวิทยาของแบรนด์
โดยเฉพาะเรื่องการปรับเปลี่ยนการใช้งานและการตั้งแคมป์ ซึ่งถือเป็นรูปแบบการใช้ขีวิตแบบใหม่ของผู้ขับขี่ออฟโรด ไม่เพียงเท่านี้ ในงาน Beijing International Automotive Exhibition แบรนด์ JAECOO ยังได้ผนึกกำลังกับผู้ขับขี่ที่มีใจรักรถออฟโรดอีกครั้ง ผ่านการใช้เทคโนโลยี AI สร้างสรรค์ประสบการณ์ทางนิเวศวิทยาส่วนบุคคลแห่งอนาคต ปลดล็อกแนวคิด “รถยนต์ + ชีวิต” ให้แก่ผู้ขับขี่ทุกคนอีกด้วย