Bentley Motors เผยสถิติ “ยอดออกแบบเฉพาะตัว” ที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2566 โดยลูกค้าจำนวน 3 ใน 4 เลือกที่จะรังสรรค์รถยนต์เบนท์ลีย์ในแบบเฉพาะตัวกว่า 46 พันล้านรูปแบบ จากตัวเลือกมาตรฐาน ไปจนถึงการออกแบบพิเศษในแบบฉบับ Bentley Mulliner ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 43% จากในปี 2565 ทำให้สามารถบ่งบอกได้ถึงความต้องการด้านการออกแบบเฉพาะตัวที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์หรู ถึงแม้ว่ายอดขายจากทั่วโลกจะอยู่ที่ 13,560 คัน หรือลดลง 11% จากในปี 2565 ก็ตาม
สำหรับสัดส่วนลูกค้าที่ให้ความสนใจโมเดลที่มีสเปกสูงขึ้นอย่างรุ่น Azure, S และ Speed ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 70% จากเดิมมีสัดส่วนที่ 30% ในปี 2565 นอกจากนี้ Bentayga รุ่นฐานล้อยาวพิเศษ ก็ยังได้รับความสนใจที่เกินความคาดหมาย ด้วยยอดขายที่มากกว่า 1 ใน 3 ของยอดรุ่น Bentayga หลังจากการเปิดตัวในปีแรก ด้านรถยนต์เบนท์ลีย์ แบบเครื่องยนต์ไฮบริด ก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน โดยสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่มีลูกค้า Flying Spur และ Bentayga มีสัดส่วนถึงราว 1 ใน 4 จากทางเลือกประเภทเครื่องยนต์ไฮบริด
ท้ายสุดผลประกอบการในแต่ละภูมิภาค ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราการเติบโตในเชิงบวกสูงที่สุดราวร้อยละ 5 ส่วนภูมิภาคตะวันออกกลางอินเดีย และแอฟริกา มีอัตราการเติบโตร้อยละ 2 แต่ในตลาดหลัก เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหราชอาณาจักร หดตัวลงกว่า 18%
โดยแนวโน้มความต้องการรถยนต์แบบอเนกประสงค์ ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขายรุ่น Bentayga ที่มาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 44 ของยอดทั้งหมด ตอกย้ำตำแหน่งอัครยนตรกรรมเอสยูวี ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก
นอกจากนี้รุ่น Continental GT และ Continental GT Convertible ก็ยังคงเป็นที่นิยม ด้วยสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของยอดขายคิดเป็น 31% ตามมาด้วยรุ่น Flying Spur Grand Tourer ยนตรกรรม 4 ประตูสุดหรู ที่ดีที่สุดของโลก กับสัดส่วนยอดขายร้อยละ 25 แม้ว่าจะมีความท้าทายในภูมิภาคสำคัญๆ ทั่วโลก แต่ภูมิภาคอเมริกา ก็ยังคงรักษาตำแหน่งความเป็นตลาดหลักที่มียอดขายสูงที่สุด โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ปัจจุบันตลาดบ้านเกิดของเบนท์ลีย์ ในสหราชอาณาจักรกลายเป็นภูมิภาคที่มียอดขายรถยนต์แบบเครื่องยนต์ไฮบริด สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยสัดส่วนยอดขายกว่า 27% ในปี 2566
| ภูมิภาค | ยอดขาย ปี 2566 | ยอดขาย ปี 2565 | สัดส่วนยอดขาย ปี 2566 |
| อเมริกา | 3,848(-9%) | 4,221 | 28% |
| สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง, มาเก๊า | 3,006(-18%) | 3,655 | 22% |
| ยุโรป | 2,376(-15%) | 2,809 | 18% |
| เอเชียแปซิฟิก | 2,123(+5%) | 2,031 | 16% |
| สหราชอาณาจักร | 1,218(-18%) | 1,490 | 9% |
| ตะวันออกกลาง, อินเดีย, แอฟริกา | 989(+2%) | 968 | 7% |
| รวม | 13,560(-11%) | 15,174 | 100% |