เบนท์ลีย์ มุมไบตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์ในประเทศอินเดีย และเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ทำเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ รังสรรค์ The Opulence Edition อัครยนตรกรรม Limited Edition รุ่นแรก แห่งดินแดนภารตะ ซึ่งมาพร้อมกับ Mulliner Bespoke Edition การตกแต่งภายนอก และภายในอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยแรงบันดาลใจจากสีสันของธงชาติประเทศอินเดีย ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรก สำหรับตลาดอินเดียโดยเฉพาะ
Opulence Edition ประกอบขึ้นเพียง 5 คัน อันได้แก่รุ่น Continental GT Speed 1 คัน, รุ่น Flying Spur Speed 1 คัน และรุ่น Bentayga EWB Azure 3 คัน โดยภายนอกของอัครยนตรกรรมทั้ง 5 คันได้รับการรังสรรค์ด้วยเฉดสีเขียว Scarab Green ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ โดย Mulliner ด้วยแรงบันดาลใจจากสีเขียวของแมลงปีกแข็ง เสริมด้วยโทนสีภายในที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษด้วยหนังเฉดสีส้ม Mandarin และเฉดสีเขียว Cumbrian Green ซึ่งถือเป็นสีประจำชาติของประเทศอินเดีย
Opulence Edition มาพร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยเฉดสีเขียว Scarab Green ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นครั้งแรกสำหรับรุ่น Bacalar อัครยนตรกรรมสปอร์ตแบบเปิดประทุนตัวถังออกแบบพิเศษรุ่นแรกของ Bentley สำหรับภายในห้องโดยสาร เฉดสีส้ม Mandarin และเฉดสีเขียว Cumbrian Green ซึ่งเป็นสีประจำชาติของประเทศอินเดียได้ถูกถ่ายทอดผ่านเบาะโดยสาร พร้อมกับวีเนียร์แบบ Piano ที่งดงามดั่งกระจก ตกแต่งบริเวณแผงหน้าปัด ตามด้วยบริเวณขอบตกแต่งด้วยเฉดสีเขียว Cumbrian Green
โดยมีลวดลายโครเมียมรูปม้าป่า และทิวเขาสลักอยู่บนแผงหน้าปัด ซึ่งนักออกแบบ และช่างฝีมือได้พยายามสร้างสรรค์ผลงานหลายรูปแบบจนได้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ และออกมาเป็นผลงานภาพวาด เพื่อนำไปใช้ตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยเทคนิคการซ้อนทับโครเมียม, การใช้สี และการตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์นี้มาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง Bentley มุมไบ และทีม Mulliner เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอัครยนตรกรรมรุ่น Limited Edition รุ่นแรก ที่รังสรรค์ขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับตลาดอินเดีย
รุ่น Continental GT Speed เจ้าของพละกำลังกว่า 659 แรงม้า ถือเป็นอัครยนตรกรรม Grand Touring สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับที่สุดของความหรูหรา และ Opulence Edition ก็ได้ช่วยตอกย้ำความเป็น Grand Tourer ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายนอกของตัวรถรังสรรถ์ด้วยเฉดสีเขียว Scarab Green และล้ออัลลอยด์แบบรุ่น Speed ขนาด 22 นิ้ว ในโทนสีเข้ม ดึงดูดความสนใจด้วยเส้นสายการออกแบบของตัวถังที่ดูแข็งแกร่ง และบึกบึน พร้อมด้วยไฟต้อนรับแบบ LED และดุมล้อรูปตัว B ปรับระดับอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบของ Mulliner
ประตูห้องโดยสารเผยให้เห็นรูปแบบของการตกแต่งภายในแบบ 2 เฉดสี พร้อมด้วยสวิตช์เกียร์แบบฉลุลวดลาย ตามด้วยขอบแผงหน้าปัดเฉดสีเขียว Cumbrian Green บนพื้นผิววีเนียร์แบบ Piano นอกจากนี้ยังมีการเย็บแบบตัดกันในเฉดสีส้ม Mandarin ที่จะช่วยทำให้ลายเส้นบนเบาะโดยสาร และลวดลายเพชรของส่วนที่บุนวม ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น Continental GT Speed Opulence Edition มีเพียง 1 คันเท่านั้น และได้ทำการส่งมอบให้กับผู้ครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Flying Spur Speed Opulence Edition มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยผิวสัมผัสลวดลายเพชรบริเวณขอบ และสวิตช์เกียร์ ระบบเครื่องเสียง Naimfor Bentley และหน้าจอแสดงผลแบบหมุนได้ (Bentley Rotating Display) อันเป็นเอกลักษณ์เบาะโดยสารแบบบุนวมตกแต่งด้วยการเย็บเป็นลวดลายเพชรในเฉดสีส้ม Mandarin ที่ตัดกัน พร้อมด้วยการปักโลโก้ Speed บริเวณพนักพิงศีรษะ
ประสิทธิภาพในการขับขี่ของ Opulence Edition ถูกถ่ายทอดผ่านการตกแต่งภายนอกด้วยเฉดสีเขียว Scarab Green ที่เสริมด้วยล้ออัลลอยด์แบบ Speed โทนสีเข้มขนาด 22 นิ้ว พร้อมดุมล้อรูปตัว B แบบปรับระดับอัตโนมัติ และมาสคอต Flying B แบบสแตนเลสขัดเงา ที่สามารถส่องสว่างตัดกันกับการตกแต่ง ด้วยเฉดสีเข้มโทนสว่างในแบบอัครยนตรกรรมรุ่น Speed
สุดยอดสมรรถนะของรุ่น Flying Spur Speed ขับเคลื่อนด้วยขุมเครื่องยนต์รุ่น W12 ทวินเทอร์โบชาร์จ ขนาด 6.0 ลิตร ที่มอบพละกำลังกว่า 626 แรงม้า พร้อมด้วยระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบควบคุมแรงบิด และ Bentley Dynamic Ride โดย Flying Spur Speed Opulence Edition จะประกอบขึ้นเพียงคันเดียวเท่านั้น
Bentayga EWB Opulence Edition ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารความสะดวกสบาย และความหรูหรา โดยจะมีการประกอบขึ้น 3 คันในรูปแบบ 4 ที่นั่ง มาพร้อมตู้เก็บความเย็นบริเวณกึ่งกลางเบาะโดยสารคู่หลัง พร้อมการตกแต่งด้วยการเย็บในเฉดสีส้ม Mandarin แบบตัดกัน พาดผ่านขอบของแผงคอนโซลหน้า และบริเวณขอบของเบาะโดยสารเฉดสีเขียว Cumbrian Green ซึ่งการเย็บแบบคอนทราสต์กันในเฉดสีเขียว Cumbrian Green จะสามารถมองเห็นลวดลายเพชร บริเวณเบาะโดยสารบุนวม และคำว่า Azure ที่ปักบริเวณพนักพิงศีรษะ
Bentayga EWB Azure Opulence Edition ยังมาพร้อมกับ Bentley Dynamic Ride 48V ที่เป็นระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟ ช่วยมอบความสะดวกสบายในการขับขี่ และความมั่นใจในการควบคุมรถ ตลอดจนสร้างความสุขในทุกๆ การเดินทางอีกด้วย