การขับขี่ Roadsters บนท้องถนนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดังที่ Royal Enfield เปิดตัว โรดสเตอร์ สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด Royal Enfield Guerrilla 450 มอเตอร์ไซค์ที่บอกให้โลกรู้ว่าจริงๆ แล้ว การขับขี่รถแบบโรดสเตอร์นั้น มีความสนุกอย่างไร! ทั้งการเคลื่อนไหว ใช้งานง่าย และคล่องแคล่วในการขับขี่
Guerrilla 450 ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาอย่างพิถีพิถัน และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เข้าถึงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ทรงพลัง หลากสไตล์ ออกแบบมาเพื่อให้สนุกต่อการขับขี่ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นในวันทำงานที่ต้องผ่านการจราจรแออัด วันอาทิตย์ตอนเช้ากับการขับขี่ที่ลัดเลาะไปตามถนน หรือการขับขี่ทางไกลในถนนที่เงียบสงบ
Guerrilla 450 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณะเฉพาะ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ของ Royal Enfield คำว่า Guerrilla ได้จารึกผลงานที่มีระดับ และได้รับรางวัลมากมาย ด้วยการพัฒนาเพื่อจุดประสงค์เดียว คือความสนุกสนานจากการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ทำให้ Guerrilla 450 เป็นวิวัฒนาการครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และเต็มไปด้วยเรื่องราวของ Royal Enfield ที่สร้างรถมอเตอร์ไซค์แบบ โรดสเตอร์ ที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพูดถึง Guerrilla 450 คุณ สิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการประจำ Eicher Motors กล่าวว่า “Guerrilla 450 คือ Modern Roadster ที่เราทุ่มเท และยินดีกับผลลัพธ์อย่างมาก ด้วยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น รวมความสามารถในการขับขี่ไว้ที่หลากหลาย สร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่ ซึ่งสร้างจากแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Himalayan แต่ถูกปรับ ให้เป็น Roadster ที่ทำให้รู้สึกต่างกันอย่างน่าตื่นเต้น ตอบโจทย์ด้านการขับขี่ และรูปลักษณ์ของการขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือแม้ตอนเร่งเครื่องยนต์เต็มที่ ด้วยเครื่องยนต์ โครงสร้าง ท่วงท่าการขับขี่ ผสมผสานจนเป็นมากกว่าแค่ส่วนประกอบ”
Royal Enfield Guerrilla 450 จะมีจำหน่ายทั่วโลก 3 รุ่น Analogue, Dash และ Flash ทั้งหมด 6 สี โดยรุ่น Analogue จะมีสี Smoke Silver และ Playa Black ซึ่งจะไม่มี TFT Cluster ในขณะที่รุ่น Dash จะมีสี Playa Black กับ Gold Dip รุ่นนี้มี TFT Display ส่วนรุ่น Flash แหวกแนวมาในสี Yellow Ribbon และ Brava Blue ซึ่งมาพร้อมออพชั่นที่ดีที่สุด สำหรับตลาดอื่นๆ จะมีสี Smoke Silver เป็นตัวเลือกเดียว สำหรับรุ่น Analogue
คุณ B Govindarajan CEO แห่ง Royal Enfield กล่าวว่า “Guerrilla 450 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่จะมาเขย่าวงการ Roadster เมื่อเราเริ่มต้นด้วยแพลตฟอร์ม Sherpa 450 เรานึกถึง Adventure Tourer และ Roadster ที่เป็นเลิศที่บ่งบอกความเป็น Royal Enfield ได้ดี ซึ่งสิ่งนั้นคือ Guerrilla 450 มอเตอร์ไซค์ Roadster ที่มีเอกลักษณ์ และความเชื่อมั่น ที่เราได้พัฒนามันพร้อมกับ Himalayan อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับการขับขี่ในเมือง และการขับขี่ท่องเที่ยงตามเส้นทางคดเคี้ยว
Guerrilla มอบประสบการณ์บนถนนที่น่าทึ่งพร้อมกับการส่งมอบพลังงานที่เข้าถึงได้ดีเยี่ยมดี ด้วยการผสานกันระหว่าง เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และโครงสร้าง เราทุ่มเวลากับการทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ และขับขี่รอบโลก เพื่อการพัฒนาและช่วยให้คุณมั่นใจในฐานะของผู้ขับขี่
The All-Roadster
Guerrilla 450 รถจักรยานยนต์พรีเมียมแบบโรดสเตอร์ ได้รับการออกแบบมาสำหรับทุกสภาพถนน ด้วยเครื่องยนต์ Sherpa 452 ซีซี ที่ถูกปรับแต่งให้มีสมรรถนะโดนใจ สำหรับการขับขี่แบบ Roadster ด้วยเฟรมเหล็กคู่ และท่านั่งแบบหลังตรง และก้มเล็กน้อย ให้อารมณ์แบบสปอร์ต พูดได้เลยว่า เจ้า Guerrilla 450 นำพาเราไปสู่วิถีของ โรดสเตอร์สายพันธุ์ออริจินอลอย่างแท้จริง!
การออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ทำให้การขับขี่มีชีวิตชีวา ให้ความคล่องตัว และการตอบสนองที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำให้เกิดการขับขี่ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการหมอบเอนไปข้างหน้า วิ่งเต็มกำลังบนเส้นทางที่คดเคี้ยว หรือบนท้องถนนในเมืองที่ขรุขระ และการจราจรติดขัด การขี่รถในเช้าวันอาทิตย์แบบชิลๆ หรือการขับขี่ระยะทางยาวในวันหยุด Guerrilla คือคำตอบของ All-Roadster ที่แท้จริง”
GRR – More Growl for the Prowl : เสียงคำรามที่น่าเกรงขาม
Guerrilla 450 เครื่องยนต์ Sherpa 452 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการขับขี่รถจักรยานยนต์แบบ Roadster เน้นสมรรถนะเต็มเปี่ยม เครื่องยนต์นี้ถูกปรับใช้ครั้งแรกใน Himalayan 450 รถสไตล์ Adventure Tourer ด้วยตัวระบบ 4 วาล์ว DOHC ของ Guerrilla 450 ให้กำลังสูงสุดที่ 40 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที โดยมากกว่า 85% ของแรงบิดมีตั้งแต่ 3,000 รอบต่อนาที ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของ Guerrilla 450 มีปั๊มน้ำภายในที่ประสิทธิภาพสูง หม้อน้ำคู่ และท่อ Bypass ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงในทุกสภาพการขับขี่ อีกทั้งเกียร์แบบ 6 สปีด พร้อม Slipper Clutch ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ทำให้ Guerrilla 450 เป็นเครื่องพิสูจน์วิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และความคิดสร้างสรรค์
Return of the Real Roadster : การกลับมาของ Roadster
ไม่มีสิ่งไหนจะเหมือนกับรูปลักษณ์และการขี่ Guerrilla 450 ที่มีความดุดัน เก๋าเกม และจิตวิญญาณของนักบิด ที่มาพร้อมเบาะนั่งแบบขั้นบันได, ถังน้ำมันขนาด 11 ลิตร, ไฟหน้า LED พร้อมไฟเลี้ยว และไฟท้ายในตัว และท่อไอเสียแบบเฉียงขึ้น
เจ้า Guerrilla ถูกออกแบบอย่างปราณีต ถูกชิ้นส่วนถูกออกแบบมาอย่างดี สะท้อนความเป็น Roadster ดั้งเดิม ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว รูปทรงการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ และคุณภาพงานประกอบระดับพรีเมี่ยม Guerrilla 450 ท้าทายกฎเกณฑ์เดิมๆ โดยนำแนวทางใหม่ๆ มาสู่การขี่มอเตอร์ไซค์
Intuitive Riding Ergonomics : ออกแบบให้เข้ากับสรีระ
การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของ Guerrilla 450 ได้รับการออกแบบมาให้รองรับกับสไตล์การขี่ที่แตกต่างกัน ช่วยให้นักบิดสามารถรับมือกับทุกสิ่ง ตั้งแต่ถนนเปิดโล่ง ไปจนถึงเส้นทางที่ต้องใช้ทักษะสูง รถรุ่นนี้มอบท่านั่งแบบหลังตรง ด้วยการผสานกันของเบาะนั่งที่ต่ำ พร้อมที่พักเท้าที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายดาย โช้คหน้าแบบ เทเลสโคปิก ขนาด
43 มม. และโช้คหลังเดี่ยว ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ โดยไม่สูญเสียความสะดวกสบาย มาพร้อมกับยางแบบไม่มียางใน ทั้งด้านหน้า และด้านหลังขนาด 17 นิ้ว และระยะฐานล้อ 1440 มม. รถจักรยานยนต์จะรักษาเสถียรภาพ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่มั่นคง และว่องไว ไดนามิกในการขับขี่ที่น่าดึงดูด และตอบโจทย์นี้ทำให้ Guerrilla 450 เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง และการขับขี่อย่างมีชีวิตชีวาบนถนนที่คดเคี้ยว โดดเด่นด้วยความสมดุลการของสมรรถนะตัวรถและฝีมือการขับขี่
Switch moods. Switch Modes : ปรับมู้ด เปลี่ยนโหมด
Guerrilla 450 มอบประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก ที่ปรับให้เข้ากับอารมณ์ของผู้ขับขี่ ด้วยระบบการจัดการเครื่องยนต์ (EMS) ที่ตอบสนองเป็นพิเศษและเทคโนโลยี Ride-by-Wire ด้วย Performance Mode และ Eco Mode ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนการตอบสนองของคันเร่งให้เหมาะกับอารมณ์ และสภาพการขับขี่ของตนเองได้ ไม่ว่าจะขับขี่บนถนนในเมืองที่พลุกพล่าน หรือควบคุมคันเร่งบนทางคดเคี้ยว และถนนเปิด รถจักรยานยนต์คันนี้จะช่วยให้ผู้ขี่เอ็นจอยยิ่งขึ้น ในทุกการขับขี่
Enabled by technology, not defined by it ขับขี่ด้วยเทคโนโลยี
รุ่นท็อป และรุ่นรองท็อปของ Guerrilla มาพร้อมกับ Tripper Dash ใหม่ ซึ่งเป็น คลัสเตอร์ อินโฟเทนเมนต์ ขนาด 4 นิ้ว ที่มีจอแสดงผลเรียบง่าย ใช้งานสะดวก ซึ่งจะให้ข้อมูลที่สำคัญทุกเมื่อที่จำเป็น Tripple Dash รองรับแอป REที่มีฟีเจอร์มากขึ้น เช่น การบันทึกเส้นทางที่สามารถส่งออกเป็นรูปแบบไฟล์ GPX ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแบ่งปันประสบการณ์การขับขี่ของตนกับเพื่อนๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าไฟล์ GPX เข้าสู่แอป RE จากอุปกรณ์ของบุคคลที่สามเพื่อสัมผัส และสร้างประสบการณ์ใหม่ของคุณได้อีกครั้ง มากไปกว่านั้น จอแสดงผลยังสามารถควบคุมเพลง การพยากรณ์อากาศ และข้อมูลยานพาหนะอย่างครบถ้วนอีกด้วย
Royal Enfield GMA and Apparel : อุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องแต่งกาย
อุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ (Genuine Motorcycle Accessories) สำหรับ Guerrilla 450 ได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน ยกระดับทั้งสไตล์ และการใช้งาน ด้วยแรงบันดาลใจที่นำมาจากฉาก Flat-Track และการขับขี่ในเมือง อุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้แก่ การ์ดเครื่องยนต์ และการ์ดท่อขนาดใหญ่, เบาะนั่งสำหรับการขี่ในเมืองที่เพิ่มสไตล์ และความสบายด้วยอานที่ออกแบบดีขึ้น ฟลายสกรีน ที่ย้อมสี และกระจกเงารมดำ จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่
แรงบันดาลใจ Flat Track เห็นได้ชัดจากเบาะนั่ง ตะแกรงกันน้ำมันสีเงิน กระจังหน้า และครอบแผงหน้าปัดสีดำ Halcyon นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกใช้การ์ดป้องกันเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัด กระจกข้างที่ยึดเสริมเพื่อการขับขี่ และความสวยงามที่ดียิ่งขึ้น Guerrilla 450 มาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางอเนกประสงค์สำหรับการผจญภัยในเมือง กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย Guerrilla 450 สื่อถึง Urban Moto-Culture ของ Royal Enfield เสื้อยืด หมวก และอุปกรณ์สวมศีรษะได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดคอมมูนิตี้นักบิดรุ่นใหม่ เอาใจสายแฟชั่น Guerrilla 450
Roadster Royal Enfield ได้เปิดตัวเสื้อแจ็คเก็ต Crossroader ใหม่ ซึ่งเป็นเสื้อแจ็คเก็ตขี่ตัวแรกของอินเดียที่มีแถบไทเทเนียม 100% เสื้อแจ็คเก็ตที่ได้รับการรับรอง CE คลาส A ให้การไหลเวียนของอากาศที่เหนือกว่า มาพร้อมอุปกรณ์สวมใส่แบบดูอัลสปอร์ต มอบความมั่นใจให้นักขี่ท่องถนนได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และมีสไตล์ อีกทั้งยังเปิดตัวโปรแกรม Borderless Warranty Program พร้อม Guerrilla 450 โดยโปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่มีอิสระในการขับขี่มากขึ้น และสำรวจรถจักรยานยนต์ Royal Enfield ของตนได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยมีระบบบริการที่กว่า 3,000 ศูนย์บริการทั่วโลกใน 70 ประเทศ