แสดงถึงพันธกิจที่แข็งแรงต่อโรงงาน Wackersdorf (วักเคอร์สดอร์ฟ) ในรัฐ Upper Palatinate และส่วนหนึ่งของการเร่งการผลิตต่อไปสู่ e-mobility BMW Group ลงทุนราว 100 ล้านยูโรจากตอนนี้ถึง 2026 ในศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่แห่งใหม่ ซึ่งจะรวมอยู่ในโครงสร้างอาคารที่มีอยู่ของโรงงาน ของที่ส่งมอบได้ชุดแรกสำหรับกิจกรรมการพัฒนาของ BMW Group ด้านแบตเตอรี่ไฟแรงสูงจะเข้าสู่การบริการปกติอย่างเร็วต้นปี 2024 หลังจากนั้น ทั่วพื้นที่กว้าง 8,442 ตร.ม. และส่วนประกอบอื่น ๆ ของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสำหรับรถ BMW Group รุ่นในอนาคตจะเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็วในช่วงต้นการพัฒนา ก่อนเริ่มการผลิตระยะหนึ่ง
การลงุทนราว 100 ล้านยูโรจะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีมาตรฐานการทดสอบที่ซับซ้อน และการอัปเกรดต่าง ๆ ต่อโครงการพื้นฐานที่มีอยู่ของอาคารที่จำเป็นต่อการทำการ
งานโครงสร้างเริ่มต้นไปแล้ว รวมถึงการติดตั้ง floor slab (แผ่นพื้น) ใหม่ในอาคาร ช่วงกลางปี 2024 ด้วยความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า battery testers จะเริ่มใช้งาน จากข้างนอก ดูเหมือนตู้เย็นตัวใหญ่ที่ไม่สำคัญ แต่ภายในนั้น ใช้ประโยชน์จากของไฮเทคล้ำสมัย ที่นี่ ชุดเซลล์แบตเตอรี่จะถูกทดสอบตลอดเวลา ในการพัฒนาช่วงแรก ที่สำคัญ ประสิทธิภาพจากไฟฟ้าของเซลล์แต่ละชุดถูกกำหนดระหว่างการชาร์จไฟกับถอดปลั๊กในสภาวะที่ต่างกันต่าง ๆ เกิดกรณีการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่จะถูกจำลองทีหลัง เวลานานก่อนรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนกำลังพัฒนาลงสู่ถนน การทดสอบขณะเดียวกันของเซลล์หลายร้อยชุดจะเป็นไปได้เบื้องต้น เมื่อเร่งการผลิตเสร็จแล้ว ความสามารถในการทดสอบจะแตะหลายพัน (มีหลักหมื่น)
ในเฟสสุดท้ายจากปี 2025 ออกไป ศูนย์ทดสอบนี้จะถูกใช้เพื่อตรวจสอบ BEV ของ BMW Group ก่อนเริ่มการผลิตจำนวนมากอย่างเป็นทางการ และมั่นใจถึงคุณภาพพรีเมี่ยมที่ต้องมี รวมถึงแบตเตอรี่ต้องมีการทดสอบอาการช็อคกับการสั่นสะเทือน เป็นอาทิ ด้วยอุปกรณ์ทดสอบซับซ้อนสูง shakers ซึ่งมีจำนวนน้อยทั่วยุโรป รูปแบบการขับขี่ที่ซับซ้อน รวมถึงวัฏจักรชาร์จไฟกับถอดปลั๊ก สามารถจำลองได้เช่นกันในการทดสอบ endurance (ความทนทาน) การทดสอบต่าง ๆ แบบนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรับรองประเภทของ EV ในบางกรณี การทดสอบเฉพาะประเทศต้องเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน ความสามารถเพื่อทดสอบนี้ในตลาดเสรีถูกจำกัดตอนนี้ เป็นเหตุที่ BMW Group กำลังสร้างความสามารถของตนด้วยศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่แห่งใหม่ใน Wackersdorf