จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดเข้าชมวิดีโอใน #MotorShow 2023 ไปกว่า 100 ล้านครั้ง ทำให้ TikTok จับมือกับกรังด์ปรีซ์ (Grand Prix) อีกครั้ง ผลักดันกลยุทธ์ O2O (Offline to Online) มอบประสบการณ์ความบันเทิงในการเลือกซื้อยานพาหนะรูปแบบใหม่ ภายในช่วงงาน Bangkok International Motor Show 2024 ภายใต้ธีม The Mobility of Joyful Experiences – ประสบการณ์แห่งความสนุก ของทุกการเดินทาง
พร้อมการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะแบรนด์ที่ประยุกต์โซลูชั่น Full-Funnel ของ TikTok ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างการมีส่วนร่วม ระหว่างแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย ตอกย้ำถึงบทบาทของแพลตฟอร์มในการกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคในอุตสาหกรรมยายนต์ของประเทศไทย
สถิติในปีที่ผ่านมา เผยว่ายอดการดูคอนเทนต์เกี่ยวกับยานพาหนะในประเทศไทยบน TikTok เติบโตขึ้นกว่า 48% รวมถึง 65% ของผู้บริโภคเริ่มมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อยานพาหนะนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากมีความต้องการให้ครอบครัวได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ช่วงเทศกาลวันหยุดกาลสงกรานต์ สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม ในการสร้างความรับรู้ให้แก่แบรนด์ และตอกย้ำอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ที่จะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกที่แพลตฟอร์มมีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง
TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มแห่งโอกาส และแหล่งรวมความบันเทิง อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยสร้างความแพร่หลายของคอนเทนต์เกี่ยวกับยานพาหนะใน TikTok ซึ่งสะท้อนผ่านแฮแท็ก #TikTokรักรถ ที่มีจำนวนคอนเทนต์กว่า 7 หมื่นคอนเทนต์ และแฮชแท็กอื่นๆ ที่เป็นแหล่งรวมคอนเทนต์เกี่ยวกับยานพนะ
ส่งผลต่อผู้บริโภคให้เกิดการมองเห็นแบรนด์ยานพาหนะต่างๆ และเกิดความสนใจในสินค้า ด้วยคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ โดยครีเอเตอร์ใน TikTok ช่วยผลักดันความชื่นชอบแบรนด์จากผู้บริโภคได้ถึง 24% ตามด้วยเกิดการแนะนำบอกต่อ 18% อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจต่อการตัดสินใจซื้อได้กว่า 20% นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังเปิดเผยสถิติในด้านการกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยคอนเทนต์ด้านยานยนต์ ดังนี้
• 60% ของผู้ใช้ TikTok ได้รับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับยานพาหนะในแพลตฟอร์ม
• 43% ของผู้ใช้ TikTok ได้ค้นพบสินค้าหมวดหมู่ยานพาหนะใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม
• 51% ของผู้รับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับยานพาหนะ มีการเข้าชมเว็บไซต์หลักของแบรนด์ในภายหลัง เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
• 36% ของผู้ชมคอนเทนต์ ได้ไปเยี่ยมชมโชว์รูม และตัวแทนจำหน่ายหลังจากเห็นสินค้าจากแพลตฟอร์ม
คุณ อริย์ธัช เพิ่มศิรินวโชติ, Client Partnerships Lead – Automotive, TikTok ประเทศไทยกล่าวว่า “TikTok ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Grand Prix และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เป็นปีที่ 2 เพื่อผลักดันกลยุทธ์การตลาดในการดึงลูกค้า Online สู่ Offline และ Offline สู่ Online ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ผ่านเส้นทางผู้บริโภคที่สั้นลง เรามั่นใจว่าแคมเปญปีนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนเช่นเคย ซึ่งจะช่วยตอกย้ำบทบาทของ TikTok ในการขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมยานยต์ ผ่านแคมเปญ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พร้อมทั้งโซลูชั่นด้านการตลาดแบบ Full-Funnel ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ตลอดทั้งการจัดงาน Bangkok International Motor Show ในปีนี้”
“อีกทั้งในปีนี้ความร่วมมือของเรากับ TikTok และแบรนด์ชั้นนำอย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อเส้นทางความสำเร็จในการนำเสนอประสบการณ์การซื้อยานพาหนะในหลากหลายมิติ ด้วยการใช้ประโยชน์จาก TikTok เราสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์ภายในงานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้ชมทางบ้าน, การพิจารณาสินค้า, การเข้าถึงสินค้า และการตัดสินใจซื้อสินค้า ยังสามารถตอบโจทย์วงการรถยนต์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนสามารถปิดการขายได้ผ่านความบันเทิง และการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์จากแพลตฟอร์ม TikTok “นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานการจัดงาน และ ประธานเจ้าหน้าที่ ด้านพัฒนาธุรกิจ และการเงิน บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเสริม
การร่วมมือทางกลยุทธ์ระหว่าง TikTok และค่ายรถดังอย่างมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ในงาน Bangkok International Motor Show 2024 เป็นตัวอย่างของโอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ควรแก่การพิจารณาสำหรับการตลาดยานยนต์ของทุกแบรนด์ โดยความสำเร็จของความร่วมมือนี้ ได้รับการพิสูจน์จากการสร้างคอนเทนต์ที่มีอิทธิพลในแพลตฟอร์ม สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างมหาศาล ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเชื่อมโยงแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ไม่เหมือนใคร
TikTok มุ่งมั่นในการเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพล สามารถขับเคลื่อนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความสนุกสนาน ส่งเสริมให้แบรนด์ได้มีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่ยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ