Honda

Honda ตอกย้ำความแกร่งของแบรนด์ ด้วยจุดเด่นผลิตภัณฑ์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี xEV และนวัตกรรมการขับเคลื่อนใหม่ ในงาน Motor Show ครั้งที่ 45

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผนึกกำลังครั้งใหญ่ จัดแสดงทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Honda ในประเทศไทย ตั้งแต่ รถยนต์, รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนใหม่ ในงาน Motor Show 2024 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย

Honda

นาย ฮิเดโอะคาวาซากะ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจ และสนับสนุนรถยนต์กลุ่ม e:HEV ทำให้ฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

โดยระบบขับเคลื่อน Full Hybrid e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน ด้วยการผสานพลังขับเคลื่อนหลัก และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดน้ำมัน ด้วยการเติมน้ำมันหนึ่งถัง ก็สามารถขับไปได้ในระยะทางที่ไกลกว่า ทั้งยังมีให้เลือกในหลากหลายเซกเมนต์ และจากความสำเร็จของยนตรกรรมในกลุ่ม e:HEV ที่ผ่านมา ในวันนี้ ฮอนด้าพร้อมแล้วที่จะได้นำเสนออีกหนึ่งก้าวสำคัญในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV)  ด้วยการแนะนำ Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทยที่พร้อมให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสได้อย่างไร้กังวล ด้วยการเช่าใช้ผ่านบริษัทรถเช่าชั้นนำ”

Honda

สำหรับภายในบูทฮอนด้า มีการแบ่งโซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เริ่มจาก Product Zone นำโดย Honda e:N1 (ฮอนด้า อี:เอ็น 1) ยนตรกรรม SUV พลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) เร้าใจด้วยแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ผสานการทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์ Premium Minimal ผสมผสานกับการตกแต่งภายในระดับ Premium ในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในโทนสีฟ้า ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในแบบยนตรกรรม SUV ทั้งยังมากับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยอันล้ำสมัยที่ครบครัน

Honda

พร้อมเปิดให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การขับเคลื่อนขุมพลังไฟฟ้า 100% ด้วยการเช่าใช้ ผ่านบริษัทรถเช่าชั้นนำ อาทิ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน), บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลิสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ไทยโอริกซ์ ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท พารากอน คาร์เรนทัล จำกัด, บริษัท ไพร์ม คาร์เร้นท์ จำกัด, บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล จำกัด, บริษัท เวิลด์คลาส เรนท์ อะ คาร์ จำกัด, บริษัท เวิลด์เบสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท เอแอลดี เอ็มเอชซี โมบิลิตี้ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ช.พัฒนา คาร์เรนท์ จำกัด โดยรายละเอียด และเงื่อนไขการเช่าเป็นไปตามที่บริษัทรถเช่ากำหนด

Honda

ต่อเนื่องมาที่ไลน์อัพ ยนตรกรรม Full Hybrid e:HEV ตรึงพื้นที่ตั้งแต่กลุ่ม SUV ที่นำโดย Honda CR-V e:HEV (ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี) ที่ล่าสุดได้รับรางวัล รถยอดเยี่ยม ประเภทไฮบริดเอสยูวีขนาดกลางในงาน Car of the Year 2024 ไปอย่างสวยงาม ด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Full Hybrid ที่แรง ทรงพลัง และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) ตลอดจนครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบาย และความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม เพื่อเติมเต็มทุกความอเนกประสงค์ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ในเมือง หรือ นอกเมืองอย่างลงตัว กับราคาเริ่มต้นที่ 1,589,000 บาท (รุ่น e:HEV ES)

Honda

กลุ่ม City Car นำโดย Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี) ใหม่ ซิตี้ คาร์ ยอดนิยม ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยม ประเภทไฮบริดซีดานเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ในงาน Car of the Year 2024 ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ขับสนุก แรง เร้าใจ และประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.8 กิโลเมตร/ลิตร มอบความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีครบครันด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาท (รุ่น e:HEV SV) พร้อมด้วย Honda City Hatchback e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี) ใหม่ อีกหนึ่งทางเลือกของ ซิตี้ คาร์ แบบ 5 ประตู ที่มอบความคุ้มค่าด้วยเอกลักษณ์ด้านความอเนกประสงค์ ซึ่งให้ลูกค้าสัมผัสกับเทคโนโลยี e:HEV ได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 729,000 บาท (รุ่น e:HEV SV)

Honda

ในฝั่งความแรงก็ไม่น้อยหน้า เพราะนำทัพด้วย Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ตระดับตำนาน สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะ ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัยอื่นๆ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก), สีเทาโซนิค (มุก), สีแดงแรลลี่, สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิ่ง (มุก) พร้อมจำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท

Honda

Mobility Zone โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี เพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่สร้างสรรค์ (Create) ขึ้นมาเพื่อพาผู้คน “ก้าวข้าม (Transcend) ขีดจำกัดต่างๆ เช่น เวลา, สถานที่” ตลอดจน “เพิ่มพูน (Augment) ศักยภาพ และโอกาสของพวกเขา” โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงประกอบด้วย Motocompacto สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ด้วยน้ำหนักเพียง 18.73 กิโลกรัม ทำให้สามารถพับเก็บ และพกพาได้

อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานด้วยฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อของ Motocompacto ที่ช่วยคาดการณ์การใช้พลังงานของแบตเตอรี่จากจุดเริ่มต้น ไปยังจุดหมายปลายทางได้ ลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดขณะเดินทาง ทั้งยังช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องเวลา และสถานที่ แม้ว่าตัวรถจะมีน้ำหนักเบา และกะทัดรัด แต่ Motocompacto ก็สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 12 ไมล์ (ประมาณ 19 กม.) เมื่อชาร์จเต็ม และสามารถทำความเร็วสูงสุด 15 ไมล์/ชั่วโมง (24 กม./ชม.)

Honda

UNI-ONE อุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคลแบบแฮนด์ฟรี ที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัวขณะนั่งโดยไม่ต้องใช้มือ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยหุ่นยนต์ของฮอนด้า และระบบล้อขับเคลื่อน Omni Traction Drive ซึ่งเป็นกลไกของฮอนด้าที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ โดยผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้อย่างสะดวกง่ายดาย เพียงโน้มตัวในขณะนั่ง และเคลื่อนตัวราวกับว่ากำลังเดิน ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวสามารถขยับ และเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น

Honda

ท้ายสุด คือ ข้อเสนอพิเศษจากแต่ละรุ่นที่น่าสนใจ ประกอบด้วย “ฮอนด้าโปรตามใจ” ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อม Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) หรือ ทางเลือก ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ดาวน์เริ่มต้นน้อย ผ่อนต่อเดือนต่ำ ก่อนเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นกับรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 – 8 เมษายน 2567 และรับรถตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 – 30 เมษายน 2567