บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จุดประกายสร้างความตื่นเต้นในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 กับการมาโชว์ตัวของ Nissan Hyper Tourer รถยนต์ไฟฟ้ามินิแวนต้นแบบ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจัดแสดงในไทยเป็นประเทศแรก หลังเปิดตัวในงาน Japan Mobility Show ทั้งยังมาพร้อมการเผยโฉม Nissan Kicks e-POWER STAR Edition และรถยนต์ครบทุกรุ่นภายในงาน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “Say YES” ที่มีข้อเสนอพิเศษหลากหลาย ตั้งแต่ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 0% ไปจนผ่อนนาน 96 เดือน เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพจากนิสสันได้ง่ายขึ้น
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน เชื่อมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนขณะเดินทางด้วยกัน ดังนั้น รถยนต์ต้นแบบ Hyper Tourer จึงสะท้อนมุมมองใหม่ของนิสสันที่มีต่อการเดินทางด้วยกันได้อย่างชัดเจน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรในอาเซียน ทำให้เราเชื่อว่าแนวคิดการพัฒนารถต้นแบบ Hyper Tourer จะช่วยให้เรายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในอนาคต และมีความสุขกับการเดินทางได้อย่างหรูหรา สะดวกสบาย”
Nissan Hyper Tourer เป็นหนึ่งในรถต้นแบบ 5 รุ่น ที่นิสสันเปิดตัวในงาน Japan Mobility Show 2023 นำเสนอจิตวิญญาณของการให้บริการแบบญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การขับขี่อัตโนมัติ, ฟังก์ชั่น V2X หรือ (Vehicle-to-Everything) และแบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุสูงที่ช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้าน, ร้านค้า และสำนักงาน ขณะเดินทาง หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ได้
รูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงความรู้สึกสบายที่มาจากภายใน ด้วยรูปโฉมภายนอกตัวถังที่เรียบลื่นไหล มีเส้นสายที่เฉียบคมเข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ที่ดูโอ่อ่ากลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ พื้นที่ห้องโดยสารภายในกว้างขวางเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน ซึ่งรวบรวมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และแบตเตอรี่แบบ Solid-State ไว้อย่างกะทัดรัด และลงตัว เพื่อให้เกิดนวัตกรรมยานยนต์ที่มีความสร้างสรรค์
ขณะที่คอนโซลเหนือศีรษะ และไฟส่องสว่างมีลวดลายแบบ คูมิโกะ และ โคอุชิ อันเป็นลักษณะเฉพาะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่สร้างความรู้สึกหรูหรา ขณะที่พื้นห้องโดยสารประกอบด้วยแผง LED แสดงภาพคล้ายแม่น้ำ และท้องฟ้าช่วยสร้างความผ่อนคลาย ผสมผสานสไตล์ที่มีทั้งความเป็นดิจิตอล และความธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ทั้งยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่ e-4ORCE ที่จะช่วยควบคุมล้อทั้ง 4 ได้อย่างแม่นยำ ทั้งตอนเร่ง และชะลอความเร็ว ด้วยการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลากับเพื่อนร่วมทางได้อย่างเต็มที่ ส่วนเบาะหน้าสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลังสามารถหันมาพูดคุยกันได้อย่างสะดวก
โดยผู้โดยสารตอนหลัง ยังสามารถใช้จอแสดงผลแบบสวมใส่ (Wearable Display) เพื่อดู และใช้งานระบบนำทางตลอดจนควบคุมเครื่องเสียงบนจอแสดงผลตรงกลางเบาะหน้า ช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสะดวกสบาย และมีส่วนร่วมในการเดินทาง โดยมีระบบ AI ที่สามารถตรวจจับข้อมูลแบบ Biometrics (ไบโอเมตริค) อาทิ คลื่นสมอง, อัตราการเต้นของหัวใจ, การหายใจ และเหงื่อ รวมถึงสามารถเลือกเพลงอัตโนมัติ และปรับบรรยากาศในห้องโดยสารให้เหมาะกับอารมณ์ในช่วงนั้นๆ ได้อีกด้วย
บูธนิสสันไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นจาก Hyper Tourer ที่สะท้อนแนวคิดรถมินิแวนแห่งอนาคตเท่านั้น แต่ยังมียนตรกรรมที่พร้อมให้เป็นเจ้าอย่างครบครัน ซึ่งอีกหนึ่งไฮไลต์ประจำบูธ ได้แก่ Nissan Kicks e-POWER STAR Edition ยนตรกรรม Compact SUV ที่มากับเทคโนโลยี e-POWER ที่ให้ประสบการณ์ในการขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ e-Pedal Step (อี-เพดัล สเต็ป) ที่สามารถเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360 Degree Safety Shield ให้ความมั่นใจทุกการขับขี่
ในส่วนของรูปลักษณ์ Nissan Kicks e-POWER STAR Edition ตกแต่งเพิ่มเติมจากรุ่นมาตรฐานเกรด VL โดยยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน กับชุดตกแต่งวัสดุโทนสีดำ 10 รายการทั้งภายนอก และภายใน ประกอบด้วย กระจังหน้าตัววี, คิ้วกันชนหน้าสีดำ, กระจกมองข้างสีเงิน, สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ STAR Edition ที่ตัวถังรถด้านข้าง, สัญลักษณ์ STAR Edition ด้านหลัง, พนักพิงศีรษะคู่หน้า และคิ้วบันไดสแตนเลส, ชุดตกแต่งรอบปุ่มควบคุมชุดปรับอากาศสีดำ และชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น พร้อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น มาตรฐานเกรด VL เพียง 19,900 บาท
ตามมาด้วยยนตรกรรมรุ่นยอดนิยมที่เข้ามาเสริมทัพในงาน ได้แก่ New Nissan Almera คอมแพคซีดานที่ “แรงจริงจัดให้” ด้วยเครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ มีกำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า และแรงบิด 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็วให้ทุกการเดินทาง มาพร้อมรูปลักษณ์ปราดเปรียว ด้วยกระจังหน้าคอนเซปต์ Next-Generation V-Motion และสีตัวถังทันสมัยเป็นเอกลักษณ์อย่าง Gray Sky Pearl
นอกจากนี้ เทคโนโลยี Nissan Connect Services ให้การเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่ และรถผ่านสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชั่น เสริมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย อาทิ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS), เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) รวมถึงการติดตั้งฟังก์ชั่น SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุต่างๆ
Nissan Navara กระบะทนถึงใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Nissan Navara Single Cab ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ต้องการรถกระบะใช้งานหนัก และวางไจได้ ด้วยโครงสร้างโมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) รองรับทุกการบรรทุกหนักได้อย่างจุใจ หรือ Nissan Navara PRO-4X และ Nissan Navara Black Edition ที่ให้ผู้ขับขี่สนุกกับทุกการเดินทาง การผจญภัย และการใช้งานทั่วไป ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC เทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด450 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบแมนนวล (M Mode) ได้เพื่อความสนุกสนาน ปิดท้ายด้วยความสะดวกเต็มพิกัดกับฝาท้ายแบบช่วยผ่อนแรงในการเปิด-ปิด
Nissan Terra Sport ยนตรกรรม PPV ที่ “คันเดียวจบ ครบเกินคุ้ม” ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย และความบันเทิงแบบครบครัน ห้องโดยสารกว้างขวางตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมด้วยความมั่นใจจากเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360 Degree Safety Shield, ระบบความบันเทิงระดับไฮเอนด์ด้วยเครื่องเสียงจาก Bose Premium Audio พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง หน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 11 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ Smart TV หรือ HDMi เพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสาร
ท้ายสุดกับ “โปรใหญ่ Say YES”แคมเปญส่งเสริมการขาย ต้อนรับ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 45 เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมยอดนิยมได้ง่ายมากขึ้น ด้วยความหลากหลาย และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าของรถยนต์แต่ละรุ่น เช่น ดอกเบี้ย 0% ไปจนถึงดาวน์เริ่มต้นเพียง 9,999 บาท หรือ ระยะเวลาในการผ่อนนานสูงสุด 96 เดือน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ภายในงาน รวมถึงที่โชว์รูมผู้จำหน่าย นิสสัน ทั่วประเทศ หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้านิสสัน โทร. 02 401 9600 หรือเว็บไซต์ของ นิสสัน ประเทศไทย www.nissan.co.th