เป็นที่รู้กันว่าในตอนนี้การรุกตลาดของรถ EV จากประเทศจีนด้วยรถราคาประหยัดเป็นกระแสทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตรถหลายค่ายต้องเปลี่ยนนโยบายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นค่ายใหญ่แค่ไหนก็ต้องปรับแผนการกันหมด
และล่าสุดมีรายงานว่าผู้ผลิตรถสัญชาติอเมริกันอย่าง Ford ได้ประกาศว่าจะชอการผลิตรถ EV ที่มาแบบบ SUV ที่มาพร้อม 3 แถวออกมาก่อน เพื่อที่จะหันมาพัฒนารถ EV ที่ราคาไม่แพง โดยมีการระบุว่าจะมีราคาไม่เกิน 25,000 เหรียญ ( ประมาณ 900,000 บาท) แทน
โดยรายงานจาก Bloomberg ว่า Ford ตั้งเป้าวางขายในปี 2026 เพื่อแข่งขันกับ ผู้ผลิตรถสัญชาติจีน โดยเฉพาะ BYD ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้ และการพัฒนารถ EV ราคาไม่แพงจะเริ่มพัฒนาด้วยสมาชิกน้อยกว่า 100 คน
ย้อนกลับไปที่สาเหตุของการที่ Ford ต้องเปลี่ยนแปลงมาผลิตรถ EV ราคาประหยัด เป็นเพราะการมาของรุ่น BYD Seagull มีราคาเพียง 9,698 เหรียญ (350,000 บาท)ที่มาในรูปแบบซีดาน 4 ที่นั่ง ที่ถือว่าราคาถูกมาก แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่สามารถวางขายในราคาถูกในอเมริกาได้เพราะมีกำแพงภาษี แต่หากค่ายรถจีนสามารถหาช่องทางนำเข้ามาวางขายในอเมริกาได้มันจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ทำให้ค่ายรถใน USA ต้องวางแผนรับมือ
ที่มา carscoops