Xpander HEV Xpander Cross HEV

Xpander HEV และ Xpander Cross HEV เปิดตัวครั้งแรกของโลก! ในไทย เคาะราคาจำหน่าย “เซอร์ไพรส์” เกินคาด

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) เปิดตัวรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด ใหม่! เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ครั้งแรกของโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กในประเทศไทยที่มาพร้อมกับระบบฟูล ไฮบริด ซึ่งผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ไว้อย่างลงตัวที่สุด

Xpander HEV Xpander Cross HEV

ชูจุดเด่น 3 สุดยอดเทคโนโลยีจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และความมั่นใจในทุกเส้นทาง แบบ Mitsubishi e:MOTION พร้อมเดินหน้ารุกตลาด และเริ่มจำหน่ายในไทยทันที เพราะรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด ทั้ง 2 รุ่นนี้จะผลิตขึ้นในไทย โดย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ณ โรงงานผลิตรถยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง

สำหรับรถยนต์ ระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด รุ่นใหม่ ทั้ง 2 รุ่นนี้ มีจุดเด่น คือ การผสานระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และเทคโนโลยีระบบควบคุมการขับเคลื่อนอันเป็นเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างมิติใหม่แห่งประสบการณ์การขับขี่ที่เปี่ยมพลัง โดดเด่นเหนือระดับ

Xpander HEV Xpander Cross HEV

ซึ่งระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด ใน เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยการต่อยอด จากระบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEVs) เพื่อมอบสุนทรียภาพแห่งการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ในสไตล์เฉพาะตัวของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ที่ทำงานสอดผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อมอบความปลอดภัย และความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยสมรรถนะการควบคุมรถที่เหนือชั้น พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย สำหรับช่วยเสริมสมรรถนะการยึดเกาะถนน และช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย คล่องตัวบนทุกสภาพถนน และทุกสภาพอากาศ อีกทั้งผู้ขับขี่ ยังสามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่เป็น EV Priority ได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ อาทิ ต้องการเดินทางอย่างเงียบสงบ หรือเคลื่อนตัวโดยไม่สร้างเสียงรบกวนในหมู่บ้านยามเช้าตรู่

ไฮไลท์สำคัญของ Mitsubishi e:MOTION คือ การมอบประสบการณ์ขับขี่ใหม่เหนือระดับที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และความมั่นใจในทุกเส้นทาง โดยผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์ของ 3 สุดยอดเทคโนโลยีจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้แก่

1. ระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด (HEV System) มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กับความน่าตื่นเต้นเร้าใจ ทั้งยังให้ความคล่องตัว ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จากระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด ซึ่งได้รับการถ่ายทอด และพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEVs)

2. โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน

3. ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control : AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบการขับขี่ที่ปลอดภัย และมั่นใจ ควบคุมรถได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง

Xpander HEV Xpander Cross HEV

โดยระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด (HEV System) จะมอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้นเร้าใจ ผ่านการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และแบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ที่ผสานการทำงานเข้ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร MIVEC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว (Atkinson Cycle) ที่มีประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่สูงกว่าจากการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นครั้งแรก พร้อมคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า

ช่วยเสริมให้อัตราประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์ดีขึ้น กว่าเดิมราวร้อยละ 34 สำหรับการขับขี่ในเมือง และให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นกว่าเดิมราวร้อยละ 15 สำหรับการขับขี่ในเมืองและนอกเมืองเมื่อดำเนินการทดสอบตามมาตรฐานการวัดระยะทางรถยนต์ไฟฟ้าแบบ NEDC ตอบสนองได้อย่างฉับไวด้วยแรงบิดรวมทั้งหมด 255 นิวตันเมตร

Xpander HEV Xpander Cross HEV

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ประกอบด้วย โหมดการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมด และอีก 5 โหมด สำหรับพื้นผิวถนนที่มีสภาวะแตกต่างกันตามภูมิประเทศ และภูมิอากาศ เพื่อสมรรถนะสูงสุดในการขับขี่ และการควบคุมตัวรถที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ อาทิ

Xpander HEV Xpander Cross HEV

  • Normal Mode เป็นโหมดที่สมดุล และเหมาะสมที่สุด สำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • Wet Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น โดยช่วยป้องกันการลื่นไถล ให้การควบคุมที่มั่นใจ และเกาะถนนเป็นเลิศ แม้ขณะฝนตกหนัก
  • Gravel Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางทางลูกรังเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นและขรุขระ
  • Tarmac Mode เหมาะกับการขับขี่บนถนนลาดยาง ที่ให้พละกำลัง และการควบคุมการขับขี่ที่คล่องตัว มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ แม้บนถนนที่คดเคี้ยว
  • Mud Mode ทางโคลน เพิ่มการตอบสนอง และการควบคุมที่ทรงพลังบนถนนดินโคลนสมบุกสมบัน

Xpander HEV Xpander Cross HEV

ผสานเข้ากับระบบควบคุมการขับขี่ต่างๆ ทั้งระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control : AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ซึ่งจะควบคุมแรงเบรกระหว่างล้อหน้าด้านซ้าย และด้านขวาให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System : TCL) ที่จะช่วยตรวจจับอาการลื่นไถลของล้อหน้า และควบคุมพละกำลังการขับเคลื่อน, ระบบควบคุมอัตราเร่ง (Acceleration Control) ที่ช่วยปรับกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ให้ทำงานสอดประสานอย่างมีประสิทธิภาพ และระบบควบคุมน้ำหนักพวงมาลัย (Steering Control) ที่ช่วยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้ตอบสนองได้ดั่งใจตามความเร็ว และสภาพพื้นผิวถนน 

Xpander HEV Xpander Cross HEV

ในส่วนรูปลักษณ์ เริ่มจากภายในห้องโดยสาร โดดเด่นสะดุดตา ด้วยดีไซน์หัวเกียร์ใหม่แบบ Electric Shift ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระบบเกียร์ไฟฟ้า (Shift-by-Wire) อันทันสมัย ตลอดจนเพิ่มความสะดวกสบาย ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว เพื่อการแสดงข้อมูลสำคัญในการใช้งาน อาทิ รูปแบบการขับขี่, ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน, อัตราการประหยัดพลังงาน, ระดับพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) และข้อมูลอื่นๆ รวมไปถึงผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอได้ตามความต้องการ ระหว่าง Enhanced Mode ที่ล้ำสมัย หรือ Classic Mode ที่ถอดแบบมาจากมาตรวัดระบบอนาล็อก

ดีไซน์ภายนอกเป็นเอกลักษณ์ สะดุดตาด้วยโลโก้ HEV ที่กระจังหน้า และฝาประตูท้าย พร้อมโลโก้ HYBRID EV บริเวณประตูหน้า ลงตัวกับการตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินบนกันชนหน้า, กาบข้างประตู, กันชนหลัง และล้ออัลลอยด์แบบทูโทนทั้ง 4 ล้อ สีตัวถังมีให้เลือกหลากหลาย เสริมด้วยสีใหม่ล่าสุด คือ สีขาว White Diamond ช่วยสะท้อนถึงความพรีเมี่ยม และนิยามความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมโทนสีที่โดดเด่น เช่น สีเงิน Blade Silver Metallic, สีเทาGraphite Gray Metallic และสีดำJet Black Mica รวมถึงสีเขียว Green Bronze Metallic ที่เป็นสีพิเศษเฉพาะของรุ่น เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี

Xpander HEV Xpander Cross HEV

ท้ายสุดในโอกาสเฉลิมฉลองการเปิดตัวใหม่นี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมมอบราคาพิเศษช่วงแนะนำจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 เพื่อเป็นของขวัญให้กับ ลูกค้า มิตซูบิชิ ทุกท่าน กับ ราคาจำหน่าย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่! เริ่มต้นที่ 912,000 บาท และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! เริ่มต้นที่ 946,000 บาท

ก่อนจะปรับราคาจำหน่ายอีกครั้งหลังจากช่วงเวลาพิเศษ โดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่! จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 933,000 บาท และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 961,000 บาท ซึ่งแทบไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปในปัจจุบันเลยทีเดียว

Xpander HEV Xpander Cross HEV

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ตร้า แคร์ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถครอบครอง และขับขี่ ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ โดยไม่ต้องกังวล อาทิ

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0% สำหรับการดาวน์ 25% และผ่อนนาน 48 เดือน
  • การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • แพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี
  • ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็คระยะตลอด 5 ปี
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี
  • พร้อมกับประกันภัยชั้น 1 ฟรีหนึ่งปี
  • เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนฟูล ไฮบริด บริษัทฯ จึงขยายการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฮบริด ยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
  • และขยายการรับประกันพิเศษ สำหรับแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริดในปีที่ 6-10 โดยไม่จำกัดระยะทาง