ในตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเปลี่ยนยุคจากรถน้ำมันเป็นไฟฟ้า ทำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวล และยังมีความลังเลที่จะเปลี่ยนรถ แต่ดูเหมือนว่าสำหรับผู้บริหารค่ายรถแล้วจะมีความมั่นใจต่อศักยภาพของตลาด รถ EV ที่จะมีอนาคตอีกยาวนาน
โดย Jim Rowan ผู้บริหารระดับสูงของ Volvo Cars ได้ประกาศว่าเขามั่นใจในศักยภาพของการเติบโตของตลาดรถ EV โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์รถระดับพรีเมียม เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ในสวีเดนและในยุโรปที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลว่า ค่ายรถจากยุโรปมีอำนาจในการกำหนดราคามากกว่า และผู้บริโภคที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนรถเร็วขึ้น และพวกเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินในราคาสูงหากต้องการรถ EV ก่อนหน้านี้ Volvo ระบุไว้แล้วว่าจะไม่เข้าร่วมสงครามราคารถ EV เนื่องจากบริษัทสามารถทำกำไรที่ดีอยู่แล้วจากรถยนต์ EV
นอกจากนี้ Rowan ยังกล่าวอีกว่าแม้จะมีการหยุดชะงักในเส้นทางการขนส่งผ่านทะเลแดง เนื่องจากสงคราม ลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยโรงงานผลิต XC40 และ C40 อยู่ในเบลเยียม ที่จะหยุดการผลิตเพียง 3 วัน เนื่องจากความล่าช้าในการส่งมอบกระปุกเกียร์
และเหมือนกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น Volvo มีแผนการที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า อย่างมีนัยสำคัญใน โดยทาง Volvo วางแผนไว้ว่าจะเพิ่มยอดขายรถ BEV ของค่ายให้เป็น 100% ภายในปี 2030
ที่มา carscoops