โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่ จัดนิทรรศการ “Save Speeding Loss เซฟชีวิตหยุดขับเร็ว”

นาย กลินท์สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด  พร้อมด้วย นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นาย จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และคณะผู้บริหารระดับสูงจากเครือข่ายอุบัติเหตุภาครัฐ ร่วมเป็นเกียรติในงานนิทรรศการ “Save Speeding Loss  เซฟชีวิตหยุดขับเร็ว” ภายใต้โครงการ โตโยต้า ถนนสีขาว เพื่อร่วมรณรงค์ และตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ สยามสแควร์ ซอย 5

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้ความสำคัญในการส่งเสริมความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ผ่านการปลูกฝัง และถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 36 ปี ภายใต้โครงการ “โตโยต้า ถนนสีขาว” โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้าง “สังคมคนขับรถดี” ผ่านการสื่อสารข้อความสำคัญ “ยิ่งเร็วยิ่งสูญเสียเร็ว” เน้นย้ำถึงอันตรายจากการขับขี่ด้วยความเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

โดยในปีนี้ โตโยต้าถนนสีขาว ยังคงรณรงค์ และตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการเน้นย้ำไม่ขับรถเร็ว โดยการเปลี่ยนถนนสยามสแควร์ ซอย 5 ให้กลายเป็น Road to Save Speeding Loss (ถนนแห่งการลดความสูญเสียจากการขับรถเร็ว) ซึ่งเป็นการจัดนิทรรศการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมานั่นคือ “เจอกับตัวสตูดิโอ” ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งครั้งนี้ โตโยต้าได้สานต่อจัดนิทรรศการโดยแบ่งเป็น 3 โซน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์จากอุบัติเหตุความเร็วอันได้แก่ 1.ประสบการณ์ของคนที่ขับเร็ว, 2.ประสบการณ์ของคนที่เป็นเหยื่อ และ 3.ประสบการณ์ของคนที่สูญเสียคนรัก

โซนที่ 1 : DUNGEONS OF GUILT (ประสบการณ์ของคนที่ขับรถเร็ว)

โซนนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสกับความรู้สึกของคนที่ขับรถเร็ว โดยประสบการณ์ครั้งนี้จะสอนว่า ถึงแม้จะขับรถชนแค่ครั้งเดียว และคุณเป็นผู้รอดชีวิต แต่ตราบาปในใจก็จะตามจองจำไปตลอดชีวิต กิจกรรมด้านในจะพบกับ การจำลองภาพที่ติดตา และเสียงที่ติดหูของเหยื่อจากอุบัติเหตุ การขับรถเร็วที่จะหลอนประสาทลึกลงไปถึงจิตใจ จนเหมือนผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องถูกจองจำติดอยู่ในคุกแห่งตราบาปตลอดกาล

โซนที่ 2 : THE LAST SECOND (ประสบการณ์ของคนที่เป็นเหยื่อ)

โซนนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสความรู้สึกของคนที่เป็นเหยื่อจากการขับรถเร็ว เพราะเมื่อเข้าใจ และรู้สึกได้ถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตเหยื่อจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต่อให้เป็นคนที่ติดนิสัยขับรถเร็วแค่ไหน  ก็คงต้องหยุด และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพราะคุณ….คงไม่อยากทำให้ใครเสียชีวิต ในโซนนี้จะฉายภาพถนนเสมือนจริง ให้ได้ลองเป็นคนที่กำลังข้ามทางม้าลาย แต่ในขณะที่กำลังข้ามถนนอยู่นั้น จะได้พบกับภาพรถยนต์ที่พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็ว ที่จะเข้าไปฝังลึกในความทรงจำ

โซนที่ 3 : GALLERY OF LOSS (ประสบการณ์ของผู้สูญเสียคนรักจากความเร็ว)

โซนนี้จะได้สัมผัสความรู้สึกของคนที่ต้องสูญเสียคนรักไปตลอดกาล ด้วยอุบัติเหตุจากการขับรถเร็ว เพื่อสร้างความตระหนักว่า “ทุกการสูญเสีย มีความทรงจำ” และทุกความทรงจำ ล้วนมีความเจ็บปวด ในโซนนี้จะได้เห็น Memory of loss ที่มีแท่นวางสิ่งของมากมาย เป็นตัวแทนเรื่องราวที่เหลืออยู่ของผู้ที่จากไป เป็นสิ่งที่ตอกย้ำครอบครัวผู้สูญเสียที่เจ็บปวดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อเน้นย้ำว่าการสูญเสียจากการขับรถเร็วไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น

โซนที่ 4 : Toyota White Road Mobility Driving (ขับขี่ปลอดภัยจากโตโยต้าถนนสีขาว)

โซนนี้จะเป็นการให้ความรู้ทักษะ และเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยจากทางโตโยต้าถนนสีขาว ให้กับผู้ที่มาร่วมกิจกรรม ซึ่งเมื่อผู้ร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ “ครบทุกโซน” จะได้รับ พวงกุญแจตุ๊กตา Milky Way ไปห้อยเตือนใจไม่ให้ขับรถเร็ว และความพิเศษของ Milky Way ในปีนี้ โตโยต้า ถนนสีขาว ได้มีการปรับโฉมของ Milky Way มาใน Art Toy style ให้มีความน่ารักเข้ากับยุคสมัยมากกว่าเดิม เพื่อสร้างกระแส และความตระหนักให้ทุกคนหยุดขับรถเร็วได้อย่างทั่วถึงกับคนทุกวัย

นอกจากนี้ โตโยต้า ถนนสีขาว จะยกถนนเส้นนี้ไปสร้างถนนแห่งความปลอดภัยกันอีกครั้ง ที่ตลาดต้นตาล ให้ชาวขอนแก่นได้สัมผัสประสบการณ์เดียวกันนี้ ในวันที่ 5-7 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

โตโยต้า ยังคงมุ่งมั่นร่วมขับเคลื่อนสังคมไทย สู่การเป็น สังคมแห่งความปลอดภัย พร้อมส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนของสังคมภายใต้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals) ผ่านโครงการ โตโยต้า ถนนสีขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านความปลอดภัยบนท้องถนน อันจะนำไปสู่การลดจำนวนอุบัติเหตุ ป้องกันการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงเป็นการร่วมส่งเสริม และสร้างสังคมคนขับรถดีให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป