บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราคา และเปิดจำหน่าย ‘Honda HR-V e:HEV ใหม่’ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็น SUV ยอดนิยม ที่พร้อมตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น โดยราคาทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น e:HEV E ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท* จำนวนจำกัด เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 –31 ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 มกราคม 2568 ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับ Hybrid SUV ที่คุ้มค่าในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 949,000บาท ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป)
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาทราคาเดิม ! เพิ่มเติมฟังก์ชันที่เติมเต็มทุกการใช้งาน
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาทราคาเดิม ! ที่อัปลุคดีไซน์แบบสปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
Honda HR-V e:HEV ใหม่ มาพร้อมหลากหลายข้อเสนอพิเศษ* ที่มอบความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของอาทิ
- รุ่น e:HEV E เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 31ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 มกราคม 2568 รับข้อเสนอ
- ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) สำหรับเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไปพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมงเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
- ทางเลือกที่ 2 : ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบาดาวน์สบายเลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 9,328 บาท หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมงเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 รับข้อเสนอ
- ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) สำหรับเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไปพร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care’ ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี, ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง, ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็น 5 ปีหรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ทางเลือกที่ 2 : ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- รับฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 2,700 บาท จำนวน 12 เดือน รวมมูลค่า 32,400 บาท ค่างวดเริ่มต้นเพียง 8,495 บาท หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care’ รวมมูลค่า 157,000 บาท ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี, ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง, ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ ‘Honda Happy Trade-in’ เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขาย และออกรถ รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขาย และออกรถ
รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 - ทุกรุ่นรับเพิ่มฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ตั้งแต่ 10 กันยายน 2567 – 7 พฤศจิกายน 2567 พร้อมจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 หรือสำหรับลูกค้าใหม่ที่จองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 27 พฤศจิกายน 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567
สัมผัส Honda HR-V e:HEV ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 28พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และพบกันที่บูทฮอนด้า (A08) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor Expo 2024) ณ อาคาร IMPACT Challenger เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน –10 ธันวาคม 2567
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Honda HR-V e:HEV ใหม่
ดีไซน์ภายนอก
- ทุกรุ่น ได้รับการออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความโดดเด่นเฉพาะรุ่น โดยรุ่น e:HEV RS มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ และรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E มาพร้อมกระจังหน้าใหม่สีเดียวกับตัวรถ
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut
- สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ ! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก), สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก), สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)
ดีไซน์ภายใน
- ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยทุกรุ่นได้รับการออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบน และส่วนล่าง มาพร้อมช่องเก็บของ และถาดอเนกประสงค์มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
- ใหม่ ! ทุกรุ่นมาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ใหม่ ! ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมการอัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้าจำนวน 1 ช่อง
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมใหม่ ! จอแสดงไฟเบรก
เทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบาย ที่เพิ่มเติมในหลากรุ่น** ตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์มอบความคุ้มค่าในการใช้งาน
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV EL เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ใหม่ !รุ่น e:HEV EL เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ใหม่ !รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้าจำนวน 1 ช่อง
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV E เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ใหม่ ! รุ่น e:HEV E เพิ่มจำนวนลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง
เทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ล้ำสมัย** มอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง
- ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่ !
ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam : ADB) - ใหม่ !รุ่น e:HEV RS มาพร้อมไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light : ACL)
- ใหม่ !รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control : HDC)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ แต่ให้อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม
- ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะทรงพลังจากการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจ มั่นใจในทุกการออกตัวด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที
- ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร ให้คุณก้าวสู่ทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง***
สมรรถนะการขับขี่อันโดดเด่น ขับสนุกสไตล์เอสยูวี
- มาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบ
ทอร์ชันบีม โดยพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมและความคล่องตัวในการขับขี่ - รุ่น e:HEV RSมาพร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าพร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน (VGR) ที่สามารถปรับอัตราทดพวงมาลัยได้แปรผันตามความเร็วและมุมเลี้ยวของพวงมาลัย มอบเสถียรภาพและความมั่นใจในการขับขี่ในทุกย่านความเร็ว อีกทั้งการบังคับเลี้ยวเข้าโค้งที่ควบคุมได้ดั่งใจ
อัปลุคสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo
มาพร้อมแนวคิด “More Premium and Sporty SUV” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ สเกิร์ตหน้า ราคา 11,000 บาท, สเกิร์ตหลัง (แบบ2ชิ้น) ราคา 6,000 บาท, ชุดตกแต่งประตูข้าง ราคา 11,000 บาท ที่มาพร้อมสี Shark Gray เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้น อีกทั้งกระจังหน้า ราคา 21,500 บาท, ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 2,500 บาท, ชุดโลโก้สีดำราคา 1,300 บาท, ชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถ ราคา 2,500 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
- Modulo Urban Package (สี Shark Gray) ราคา 21,000 บาท ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตหลัง
(แบบ 2 ชิ้น) และชุดตกแต่งประตูข้าง - Utility Package ราคา 4,800 บาท ประกอบด้วยม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลังและแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้ายรถ
ดูรายละเอียดชุดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/hrv
พิเศษ! ครั้งแรกกับชุดแต่ง MUGEN เอาใจสาวกฮอนด้า
ยกระดับความแกร่งสไตล์สปอร์ตในแนวคิด ‘Sporty Energize with Aggressive Styling’ กับอุปกรณ์ตกแต่งมูเกน (MUGEN) ที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน และหลากหลายไอเท็มให้เลือกตกแต่งจัดเต็มความสปอร์ต อาทิ สปอยเลอร์หน้า, สปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ตข้าง โดยจะประกาศรายละเอียดการจำหน่ายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/hrvehev
หมายเหตุ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
**อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
***ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้นอ้างอิง และไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
– สีกากีแซนด์ (มุก) หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 14,000 บาท, สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท, สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
– ราคาอุปกรณ์ตกแต่งไม่รวม VAT 7%
– กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่ รับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร