จากปี 2017 ที่ทาง กลุ่ม PTG ได้เข้าไปร่วมทุนกับ ออโต้แบคส์ ซึ่งขณะนั้นมีสาขาเพียง 8 สาขา จากนั้นได้ขยายเป็น 16 สาขา จนในปี 2020 กลุ่ม PTG ได้ตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่ม เพื่อที่จะเข้ามาบริหาร ออโต้แบคส์ ในประเทศไทย และภายในระยะเวลา 4 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ออโต้แบคส์ สาขาสายไหม 74 ได้เฉลิมฉลองการเติบโตเป็นสาขาที่ 100 “Autobacs 100 Branches Celebration ทุกความไว้ใจร้อยให้เป็นเรา” สำหรับอนาคตของสยามออโต้แบคส์ในประเทศไทย ยังมุ่งมั่นที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในทุก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจและอุ่นใจ ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเดินทางไปที่ใด ก็จะมีออโต้แบคส์คอยดูแลเคียงข้าง ในทุกๆที่เสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ในโอกาสพิเศษนี้ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาพบกับทุกท่านในวันนี้ เพื่อแสดงความยินดีกับ ออโต้แบคส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว กลุ่มบริษัท PTG Energy และในวันนี้ได้มาฉลองความสำเร็จกับก้าวแรกที่เป็นความภาคภูมิใจ และการเติบโตอย่างรวดเร็วของ ออโต้แบคส์ นับว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการที่มีคุณภาพ
ซึ่งทาง PTG ได้ให้นโยบายการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย สาขาของ ออโต้แบคส์ จะขยายภายในปีนี้ 2024 จำนวน 120 สาขา และเพิ่มในปีต่อไปประมาณ 80 สาขา รวมเป็น 200 สาขาในปีถัดไป และปี 2026 จะขยายเพิ่มอีก 100 สาขาเพื่อให้ถึงเป้าหมาย 300 สาขาที่ตั้งไว้ และพร้อมสนับสนุนให้พนักงานของ ออโต้แบคส์ ได้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและในประเทศไทย ในการดูแลลูกค้าและการให้บริการ พร้อมกับการอัปเดทเครื่องมือและอุปกรณ์ให้ทันสมัย สำหรับงานด้านต่างๆของ ออโต้แบคส์ ให้มีมาตรฐานเท่ากันทุกสาขาที่ให้บริการ”
วิศรุต โลจนานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามออโต้แบคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ ที่ออโต้แบคส์พนักงานของเราทุกคนมีความฝัน เราฝันที่จะเป็นผู้ให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ที่ใกล้ชิดและเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด นั่นเป็นสาเหตุให้เราทำการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ออโต้แบคส์เป็นแบรนด์ผู้ให้บริการในธุรกิจ
ฟาสต์ฟิต ที่มีการเติบโตที่เร็วที่สุดในประเทศ สำหรับในส่วนของยอดขาย ในปี 2023 เรามีอัตราการเติบโตกว่า 60% และในปี 2024 ที่จะถึงนี้ เราคาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ระหว่าง 80-90% และเรามั่นใจว่า จะรักษาอัตราการเติบโตในระดับนี้ได้ในปีถัด ๆ ไป
แต่การจะทำอย่างนี้ได้ พนักงานออโต้แบคส์ของเราทุกคนได้ทำงานด้วยความทุ่มเทเป็นอย่างหนัก เพื่อสรรหาพื้นที่ในการเปิดสาขา ที่เข้าถึงและให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการเข้ามารับบริการให้มากที่สุด ลูกค้าจะได้รับการบริการที่รวดเร็ว ได้มาตรฐาน ด้วยความจริงใจ และกลับไปพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ
สำหรับทีมงานช่างที่เป็นหัวใจของธุรกิจฟาสต์ฟิตนั้น ทุกคนได้ผ่านการอบรมและทดสอบโดยตรงจากทีมงานออโต้แบคส์ที่ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อผ่านการทดสอบแล้ว ช่างของเราจะได้รับเครื่องหมายการันตีที่เรียกว่า Meister Certificate เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการบริการของออโต้แบคส์ที่ประเทศไทย จะได้มาตรฐานเดียวกันกับออโต้แบคส์ที่ประเทศญี่ปุ่น
สุดท้ายนี้ผมขอใช้โอกาสนี้ ในการขอบคุณพนักงานออโต้แบคส์ทุก ๆ คน ทั้งที่อยู่ในที่นี้และที่สาขา ที่ทำงานด้วยหัวใจรักในองค์กร และทุ่มเทในการทำงานอย่างหนัก ทำให้ออโต้แบคส์ของเราเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคงอย่างที่ทุกท่านได้เห็นในวันนี้ ผมเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า คนของเราจะเป็น Winning Formula ที่จะทำให้ออโต้แบคส์ขึ้นมาเป็นศูนย์บริการรถยนต์ อันดับ 1 ของประเทศไทย
ผมขอขอบคุณบริษัท PTG และบริษัทในเครือ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนและให้การสนับสนุน โดยเฉพาะสิทธิพิเศษที่ให้ลูกค้าผ่านระบบสมาชิกบัตร Max Card และบัตร Max card plus ทำให้ลูกค้าของออโต้แบคส์ได้รับสิทธิประโยชน์ ในการเติมน้ำมัน PT ซื้อเครื่องดื่มกาแฟพันธุ์ไทย และใช้บริการที่ออโต้แบคส์”