บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติ ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคมยังคงฟื้นตัวช้า ยอดขายรวม 45,190 คัน ลดลง 25%

นาย ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2567 ยอดขายตลาดรวม 45,190 คัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,305 คัน ลดลง 22.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีปริมาณการขาย 26,885 คัน ลดลง 26.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,970 คัน ลดลง 39.2%

ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 2567 มียอดขาย 45,190 คัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งทำยอดขาย 18,305คัน ชะลอตัวที่ 22.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 26,885 คัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 26.5% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 14,970 คัน เติบโตลดลง 39.2% ในส่วนของตลาด xEVมียอดขายทั้งหมด 17,090 คัน คิดเป็นสัดส่วน 38% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่รถยนต์ HEV ยังคงได้รับความนิยม โดยมียอดขายอยู่ที่ 8,658 คัน เติบโตขึ้น 33% คิดเป็นสัดส่วน 51% ของตลาด xEV และรถยนต์ BEV มียอดขาย 7,654 คัน เพิ่มขึ้น 16% คิดเป็นสัดส่วน 45% ของตลาด xEV ทั้งหมด

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนมีแนวโน้มจะยังคงทรงตัว แต่ยังคงเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงฟื้นตัวช้า และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมถึงภาวะอุทกภัยอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 45,190 คัน ลดลง 25%

อันดับ 1 โตโยต้า17,843 คันลดลง14.5%ส่วนแบ่งตลาด39.5%
อันดับ 2 อีซูซุ6,145 คันลดลง46%ส่วนแบ่งตลาด13.6%
อันดับ 3 ฮอนด้า5,005 คันลดลง29.3%ส่วนแบ่งตลาด11.1%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,305 คันลดลง 22.6%

อันดับ 1 โตโยต้า5,554คันลดลง33.5%ส่วนแบ่งตลาด30.3%
อันดับ 2 ฮอนด้า3,302คันลดลง24.1%ส่วนแบ่งตลาด18%
อันดับ 3 มิตซูบิชิ1,375คันเพิ่มขึ้น48%ส่วนแบ่งตลาด7.5%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 26,885 คัน ลดลง 26.5%

อันดับ 1 โตโยต้า12,289 คันลดลง1.9%ส่วนแบ่งตลาด45.7%
อันดับ 2 อีซูซุ6,145คันลดลง46%ส่วนแบ่งตลาด22.9%
อันดับ 3 ฮอนด้า1,703คันลดลง37.8%ส่วนแบ่งตลาด6.3%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 14,970 คัน ลดลง 39.2%

อันดับ 1 โตโยต้า7,086คันลดลง29.2%ส่วนแบ่งตลาด47.3%
อันดับ 2 อีซูซุ5,275คันลดลง47.2%ส่วนแบ่งตลาด35.2%
อันดับ 3 ฟอร์ด1,501คันลดลง49.2%ส่วนแบ่งตลาด10%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,667 คัน / อีซูซุ 1,158 คัน – โตโยต้า 822 คัน – ฟอร์ด 542 คัน – มิตซูบิชิ 113 คัน – นิสสัน 32 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 12,303 คัน ลดลง 37.1%     

อันดับ 1 โตโยต้า6,264คันลดลง21.4%ส่วนแบ่งตลาด50.9%
อันดับ 2 อีซูซุ4,117คันลดลง51.1%ส่วนแบ่งตลาด33.5%
อันดับ 3 ฟอร์ด959คันลดลง47.5%ส่วนแบ่งตลาด7.8%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – สิงหาคม 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 399,611 คัน ลดลง 23.9%

อันดับ 1 โตโยต้า151,907คันลดลง14.7%ส่วนแบ่งตลาด38%
อันดับ 2 อีซูซุ59,189คันลดลง45.9%ส่วนแบ่งตลาด14.8%
อันดับ 3 ฮอนด้า53,946คันลดลง11.2%ส่วนแบ่งตลาด13.5%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 154,194 คัน ลดลง 20.6%

อันดับ 1 โตโยต้า44,131คันลดลง34.6%ส่วนแบ่งตลาด28.6%
อันดับ 2 ฮอนด้า30,555คันลดลง23%ส่วนแบ่งตลาด19.8%
อันดับ 3 มิตซูบิชิ12,345คันเพิ่มขึ้น6.5%ส่วนแบ่งตลาด8%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 245,417 คัน ลดลง 25.8%

อันดับ 1 โตโยต้า107,776 คันลดลง2.7%ส่วนแบ่งตลาด43.9%
อันดับ 2 อีซูซุ59,189 คันลดลง45.9%ส่วนแบ่งตลาด24.1%
อันดับ 3 ฮอนด้า23,391 คันเพิ่มขึ้น11%ส่วนแบ่งตลาด9.5%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 139,532 คัน ลดลง 40%

อันดับ 1 โตโยต้า64,144 คันลดลง29.2%ส่วนแบ่งตลาด46%
อันดับ 2 อีซูซุ51,711 คันลดลง47.7%ส่วนแบ่งตลาด37.1%
อันดับ 3 ฟอร์ด14,730 คันลดลง43%ส่วนแบ่งตลาด10.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 24,481 คัน / โตโยต้า 8,736 คัน อีซูซุ 8,247 คัน ฟอร์ด 5,564 คัน – มิตซูบิชิ 1,656 คัน – นิสสัน 278 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 115,051 คัน ลดลง 39.3%

อันดับ 1 โตโยต้า55,408 คันลดลง26.2%ส่วนแบ่งตลาด48.2%
อันดับ 2 อีซูซุ43,464 คันลดลง48%ส่วนแบ่งตลาด37.8%
อันดับ 3 ฟอร์ด9,166 คันลดลง47.6%ส่วนแบ่งตลาด8%