บอสใหญ่ Jaguar บอกการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค EV เป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิด

Jaguar ไม่ค่อยพูดถึงการเปลี่ยนมาใช้รถ EV เท่าไหร่นักในช่วงหลังนี้ แม้ว่าแบรนด์นี้จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการเปิดตัวรถ EV ในชื่อรุ่น I-Pace ในปี 2018 ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการรถ EV ในตอนที่เปิดตัว แต่หลังจากนั้นค่ายเก่าแก่จากอังกฤษก็เงียบหายไป

โดยล่าสุดค่าย Rawdon Glover กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ Jaguar มารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2023 โดยเขาได้ออกมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับการทำตลาดรถ EV ที่น่าสนใจ โดยเขาได้บอกว่าแผนงานการเปลี่ยนเป็นการขายรถ EV ล้วน ซึ่งตรงกันข้ามกับค่ายอื่นที่เริ่มถอนตัวออกมาเพราะความต้องการรถ EV ในตลาดไม่ได้มากอย่างที่คาดไว้

และนับตั้งแต่ Jaguar ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าล้วน แบรนด์ต้องเผชิญกับการตัดสินใจหลายอย่าง เพราะทางค่ายตัดสินใจหยุดผลิตรถทุกรุ่น และทำให้ส่งผลกับยอดขายที่ลดลง เหมือนกับเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่ ซึ่ง Jaguar เลือกเส้นทางที่ดูยากลำบากกว่าที่คิด

และนั้นเป็นส่วนที่ยากในการจัดสินใจครั้งนี้คือค่าย Jaguar ต้องแลกเพื่อไปถึงจุดนั้น ขั้นแรกหมายความว่าทางค่ายจะต้องไม่ขายรถยนต์เลยแม้แต่รุ่นเดียวบ้านเกิดอย่างอังกฤษนานกว่าหนึ่งปี ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะค่ายจะเสียรายได้และมีความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์

โดยในอนาคต Jaguar จะมีรถรุ่นใหม่ให้เลือก 3 รุ่น เปิดตัวในปี 2025 ที่มีทั้งตัวถังแบบ SUV และยังมีอีก 2 รุ่น และจะวิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งไกลถึง 700 กิโลเมตร ซึ่งจะมาแนวทางที่ยกระดับแบรนด์ Jaguar ให้สดใหม่และดูหรูหว่าเดิม จนแฟน ๆ ต้องยอมเสียเงินระดับเกิน 1 แสนปอนด์เพื่อเป็นเจ้าของรถ

ที่มา insideevs