เมื่อต้นเดือนได้เกิดเหตุ รถไฟฟ้า Mercedes-Benz EQE เกิดไฟไหม้ขณะจอดอยู่ในที่จอดรถใต้ดินของอาคารอพาร์ตเมนต์ ทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น สื่อท้องถิ่นคาดว่าทำให้รถยนต์บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย 880 คัน และทำให้ครัวเรือน 1,600 หลังไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์
และเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต รัฐบาลกรุงโซลจึงเข้ามาดำเนินการ นอกจากการจำกัดการเข้าถึงที่จอดรถใต้ดินสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไม่ถึง 90% แล้ว กฎใหม่นี้ยังจะบังคับใช้ขีดจำกัดการชาร์จที่ 80% สำหรับการชาร์จด่วนในเมืองหลวงของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะบังคับใช้ขีดจำกัดการชาร์จนี้กับสถานีชาร์จที่ดำเนินการโดยเอกชนอีกด้วย Korea JoongAng Daily ระบุว่ากฎดังกล่าวอาจมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าหลายคนในประเทศคัดค้านกฎดังกล่าว ศาสตราจารย์ Yoon Won-sub ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยแบตเตอรี่ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัย Sungkyunkwan และ Samsung SDI กล่าวว่าไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้มากกว่า
จากรายงานเหตุไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า 139 ครั้งในเกาหลีใต้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 26 ครั้งเท่านั้นที่เกิดขึ้นในขณะที่รถยนต์กำลังชาร์จ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว 68 ครั้งเกิดขึ้นในขณะที่รถยนต์กำลังขับขี่อยู่ ในขณะที่อีก 36 ครั้งเกิดขึ้นเมื่อรถไฟฟ้าจอดอยู่ ในกรณีของ EQE ที่ติดไฟเองนั้น รถจอดไว้และไม่ได้ชาร์จไฟ
เจ้าของรถ EV ก็ไม่พอใจเช่นกัน การจำกัดการชาร์จจะทำให้รัฐบาลลดระยะการใช้งานของรถ EV ทั้งหมดลงอย่างมีประสิทธิผล โดยผู้ใช้งานได้กล่าวว่า “หากรถที่ใช้น้ำมันเบนซินเกิดไฟไหม้ รัฐบาลจะจำกัดการเติมน้ำมันให้เหลือ 90 เปอร์เซ็นต์หรือไม่” เจ้าของ Tesla คนหนึ่งเขียนไว้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียของเกาหลี “และเขาไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลถึงคิดตัวเลขอย่าง 80 และ 90 เปอร์เซ็นต์ได้ จากข้อมูลที่พิสูจน์แล้ว ถ้ามันอันตรายขนาดนั้น ทำไมรัฐบาลถึงสนับสนุนให้ผู้คนซื้อรถ EV ในตอนแรก
ที่มา Carscoops