Japan Airlines (JAL) และ Bridgestone Corporation ได้ขยายการปรับใช้ของเทคโนโลยีการประมาณอาการสึกหรอยางเพื่อนำไปใช้ในงานเปลี่ยนยางสำหรับเครื่องบินขนาดใหญ่ รวมถึง Airbus A350-900 ซึ่งบริหารโดย JAL ตั้งแต่ พ.ค. 2024
ยางเครื่องบินต้องมีความปลอดภัยที่ถูกการันตีแล้ว และมั่นใจได้ถึงการเทคออฟกับลงดินของเครื่องบินภายใต้สภาพอากาศรุนแรง รวมถึง การขนของหนัก, ความเร็วสูง และอุณหภูมิหลายแบบ โดยปกติ ยางเครื่องบินต้องถูกแทนที่หลังบินจอดหลายร้อยครั้ง แต่อัตราการสึกของยางนั้นหลากหลายตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพการใช้งานของเครื่องบินลำนั้นหรือที่สนามบินนั้น สภาวะนี้ได้ทำให้การกำหนดเวลาเปลี่ยนยางนั้นยาก ทำให้การเปลี่ยนยางถูกมองเป็นงานไม่ประจำ ซึ่งสามารถเกิดความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเปลี่ยนยางพร้อมกันบางทีหลายเส้นด้วยซ้ำ เพื่อแก้ปัญหานี้ บริดจ์สโตนจับมือกับ JAL เพื่อพัฒนาขั้นตอนการบริหารซึ่งสร้างการกำหนดเปลี่ยนยางได้ ด้วยการผสานข้อมูลเชิงลึกเรื่องเครื่องบินกับข้อมูลไฟลท์ของ JAL เข้ากับความเชี่ยวชาญยางกับเทคโนโลยีการประมาณอาการสึกหรอยางด้วยดิจิตอล การคาดการณ์ที่แม่นยำสูงของเวลาที่เหมาะสมเพื่อเปลี่ยนยางได้ถูกตั้งสูตรขึ้น ตั้งแต่ พ.ค. 2020 ขั้นตอนเหล่านี้ได้เริ่มใช้งานกับเครื่องบินเจ็ตในโซนภูมิภาคที่บริหารโดย J-AIR Corporation
ด้วยประสบการณ์ 4 ปี การใช้ขั้นตอนเหล่านี้มีส่วนต่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการจัดการเปลี่ยนยาง, การสต็อคยางกับล้อที่สม่ำเสมอกับจำนวนน้อยลง เช่นเดียวกับการลดการปล่อย CO2 ในที่สุดจากการผลิตและใช้งานสิ่งเหล่านี้ นอกจากนี้ การจัดการเปลี่ยนยางได้เปลี่ยนจากงานนอกตารางเป็นงานตามตารางด้วยโมเดลการประมาณที่แม่นยำ ซึ่งยังช่วยปฏิรูปสไตล์การทำงานของสตาฟฟ์บำรุงรักษาด้วยการลงงานเกินเวลานอกตารางซึ่งเพิ่มคุณภาพของการบำรุงรักษาผ่านการขยายการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอีกด้วย