บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี ในประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก นางสาว พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม, นาย ณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบการควบคุมทางสรรพสามิต และ นาย นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดไลน์การผลิตรถไฮบริดรุ่นล่าสุด All New MG3 Hybrid+ ก่อนเปิดตัว และประกาศราคาอย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 20 สิงหาคม นี้
พร้อมเยี่ยมชมฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีในไทย ที่ครอบคลุมการผลิตรถยนต์ในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทั้งรถยนต์สันดาปภายใน, รถยนต์พลังงานทางเลือก และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงโรงงานประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมแสดงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ ที่ครอบคลุมทุกการขับเคลื่อนอย่างครบวงจร มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันอย่างครอบคลุมที่สุด
นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของ เอ็มจี ในการต้อนรับ นางสาว พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นาย ณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต และ นาย นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะผู้บริหาร และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ให้เกียรติร่วมเปิดไลน์การผลิตรถยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุด All New MG3 Hybrid+ ก่อนเปิดตัว อย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 20 สิงหาคม นี้
พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์แบบครบวงจรของ เอ็มจี ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ทั้งหมด 437.5 ไร่ ที่พัฒนาขึ้นภายใต้งบการลงทุนที่สูงถึงกว่า 30,000 ล้านบาทโดย เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์รถยนต์จีน ที่มีการลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ กับจุดเด่นของโรงงานที่สามารถผลิต และประกอบรถยนต์ครอบคลุมทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี โดยมีพื้นที่ของโรงประกอบตัวถัง (Body Shop), โรงพ่นสีรถยนต์ (Paint Shop), โรงประกอบรถ (General Assembly Shop) ครอบคลุมไปถึงส่วนของคลังจัดเก็บอะไหล่ เพื่อรองรับรถยนต์ของเอ็มจีทุกรุ่น
รวมถึงพื้นที่ New Energy Industrial Park ซึ่งประกอบด้วย โรงประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ภายในโรงงานมีการจัดสรรพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วย เพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำ สามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-ToPack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี
ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 10 ปี เอ็มจี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างครอบคลุม ในฐานะผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เอ็มจี ได้พัฒนา และขยาย MG EV Ecosystem เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในนโยบายส่งเสริมต่างๆ โดยมีเป้าหมายให้คนไทยได้ใช้ยานยนต์คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ล่าสุด เอ็มจี ได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เริ่มต้นด้วยโกลบอลโมเดลอย่าง New MG4 Electric
นอกจากนี้ ยังพร้อมตอบรับ การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน สู่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน ด้วยการขยายไลน์การผลิตเ พื่อรองรับการผลิตรถไฮบริดอย่าง All New MG3 Hybrid+ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงเทคโนโลยียานยนต์ที่ผสมผสานทั้งระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้สามารถเปลี่ยนผ่าน สู่ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดรับกับทิศทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่ไทยมีโอกาสเป็นฐานการผลิตระดับโลกได้
นาย จ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า “การเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ เอ็มจี ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงศักยภาพ และความพร้อมของ เอ็มจี ในการลงทุน และทำการตลาดในประเทศไทย ยังมีอีกหนึ่งความสำคัญที่ เอ็มจี ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ร่วมเป็นสักขีพยานในการพิธีปล่อยรถ All New MG3 Hybrid+ รถไฮบริดคุณภาพสูงรุ่นล่าสุดออกจากสายการผลิต เพื่อเตรียมพร้อมเปิดตัว และประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 20 สิงหาคม นี้
โดยรถยนต์รุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นเรือธงที่ เอ็มจี มุ่งมั่นให้เป็นหนึ่งในยนตรกรรม ที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็มจี ที่พร้อมผลักดันการผลิตรถไฮบริด แทนที่รถยนต์สันดาปภายใน เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น Green mobility และสอดคล้องกับเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านสังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มขั้น ตามแนวทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก”