เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวทัพยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สะท้อนนิยาม “The Art of Cultivated Luxury” จัดแสดงครั้งแรกที่ One Bangkok Forum

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เสริมทัพไลน์อัพยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury กว่า 6 รุ่น ครอบคลุมทั้งแบรนด์ Mercedes-Maybach และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในกลุ่ม G-Class, S-Class และ V-Class โดยจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Art of Cultivated Luxury” นำเสนอความงดงามของศิลปะร่วมสมัย ที่ผสานเข้ากับยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผ่าน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ Luxury on Wheel, The Essence of Elegance, Culinary Mastery, The Art of Fine Drinking และ Notes of Perfection

สะท้อนถึงความประณีตรสนิยมชั้นสูง และสุนทรียภาพแห่งชีวิต รวมถึงความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการมอบประสบการณ์
อันเหนือระดับให้กับลูกค้าระดับไฮเอนด์ในทุกมิติ โดยจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ณ ชั้น 3 อาคาร เดอะ ฟอรัม แอท วัน แบงค็อก (One Bangkok Forum)

ไฮไลท์สำคัญของงาน “The Art of Cultivated Luxury” คือ การเปิดตัว และจัดแสดงยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 6 รุ่น ดังนี้

Mercedes-Maybach EQS 680 SUV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach ที่สุดแห่งยนตรกรรมเอสยูวีที่ตอบโจทย์การใช้งานอันเหนือระดับ จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,500,000 บาท และ “Mercedes-Maybach S 580 e Premium” รถยนต์ซีดานระดับไฮเอนด์ลักชัวรี ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างามในแบบฉบับของ S-Class โดยกลับมาพร้อมตัวถังสีทูโทนใหม่แบบ Local Production จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 11,300,000 บาท

Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ครั้งแรกกับการสานต่อตำนาน 45 ปี ของ G-Class เจ้าของฉายา“King of Off-Road” มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ทำให้สามารถทำแรงบิดได้สูงสุดถึง 1,164 นิวตันเมตร ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 รุ่น ในรุ่น STANDARD ราคาเริ่มต้น 9,500,000 บาท และรุ่น EDITION ONE ราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท โดยสำหรับรุ่น EDITION ONE จะจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 6 คัน ในประเทศไทยนอกจากนี้ยังเปิดตัว Mercedes-Benz G 450 d ยนตรกรรม The new G-Class ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล ตามคำเรียกร้องของกลุ่มลูกค้าชาวไทยจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท

Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ยนตรกรรมลักชัวรี่ซีดานที่มอบความครบเครื่องในทุกมิติ ทั้งสุนทรียภาพด้านการขับขี่ ความสะดวกสบายของการโดยสาร ระบบความบันเทิง และความปลอดภัยขั้นสูง มาพร้อมการเพิ่มความสะดวกสบายทุกการขับขี่ที่มากขึ้น ด้วยระบบควบคุมทิศทางตัวรถแบบเลี้ยว 4 ล้อ (Rear axle steering 4.5°) จำหน่ายในราคา 7,580,000บาท

Mercedes-Benz V 300 d Exclusive รถแวนระดับลักชัวรี่ 6 ที่นั่ง รุ่นนำเข้ามาตรฐานยุโรป ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการเดินทางแบบครอบครัว และการใช้งานในทางธุรกิจมอบความสะดวกสบายและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส พร้อมทั้งเสริมสมรรถนะที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวจำหน่ายในราคา 5,820,000 บาท

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “การเปิดตัวยนตรกรรมทั้ง 6 รุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในทุกด้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างแท้จริง โดยแบรนด์ Mercedes-Maybach และรถยนต์กลุ่ม S-Class ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบร่วมสมัยด้วยการตกแต่งภายในสุดประณีต เทคโนโลยีล้ำสมัย และการออกแบบที่เหนือกาลเวลา

ในส่วนของรถยนต์กลุ่ม G-Class นั้นเป็นตัวแทนด้านขุมพลัง และมรดกอันยิ่งใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมตอกย้ำถึงความสง่างามที่มาพร้อมความแข็งแกร่ง และสมรรถนะขั้นสูง และสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางในการใช้งาน เรายังได้นำเสนอรถแวนอเนกประสงค์ในกลุ่ม V-Class ที่เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว และกลุ่มนักธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานที่หลากหลาย”

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงเครื่องประดับ และเฟอร์นิเจอร์หายากที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจาก “Lotus Arts de Vivre” แบรนด์จิวเวลรี่ และของตกแต่งบ้านชื่อดังของไทย และนาฬิกาหรูจาก “SHH by Pendulum” รวมไปถึงเมนูอาหาร และเครื่องดื่มสุดพิเศษที่รังสรรค์โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์อย่าง “WANAYOOK” คาเวียร์บาร์สุดพรีเมียมจาก “Prunier” และแชมเปญชั้นเลิศจาก “Laurent-Perrier” พร้อมดื่มด่ำไปกับบทเพลงอันไพเราะจากวงออร์เคสตรา “THAILAND PHILHARMONIC” ที่มาเติมเต็มประสบการณ์แห่งความลักชัวรี่ในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เราไม่ได้เพียงแค่นำเสนอความเหนือชั้นด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในรถยนต์ทุกรุ่นเท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความประณีต และความสง่างามในทุกองค์ประกอบ โดย ‘Cultivated Luxury’ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างรสนิยม วัฒนธรรม และคุณค่าอย่างลงตัว เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานใหม่แห่งความลักชัวรี่นี้” มร. มาร์ทิน กล่าวปิดท้าย