บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว New City Hatchback ที่มากับความพิเศษจากรุ่น Full Hybrid e:HEV ที่เข้าถึงง่ายขึ้นด้วยราคาใหม่ HEV RS ค่าตัว 799,000 บาท พร้อมด้วยการเพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV ราคา729,000 บาท เสริมทัพด้วยความเร้าใจจากรุ่นขุมพลัง VTEC Turbo ที่เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน และอัพเกรดความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นจากเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อยด้วยราคา 599,000 – 749,000 บาท
ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ** อาทิ Double Smile Plus ขับฟรีสูงสุด 6 เดือน** ดาวน์เริ่มต้น 5% เพียง 29,950 บาท** หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 5,484 บาท** เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ New City Hatchback ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังเสริมความมั่นใจในรุ่น e:HEV ด้วยการเพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจอง และรับรถตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 – 30 เมษายน 2567
อัพลุคสปอร์ตขึ้นอีกระดับ กับดีไซน์ใหม่ สไตล์แฮทช์แบ็ก
- ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
- ใหม่!กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV) พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย เอกลักษณ์เฉพาะรถ e:HEV ของฮอนด้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
สปอร์ตเต็มขั้นกับชุดแต่ง ในรุ่น RS และ e:HEV RS
- ใหม่! กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- ใหม่! กันชนหน้า และกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- ใหม่! เพิ่มสเกิร์ตข้าง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- สปอยเลอร์หลัง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ใหม่! ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
- ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
- เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
- ใหม่! ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
- ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
ภายในกว้างขวาง มอบความสบาย ตลอดการเดินทาง
- ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (รุ่น SV และ e:HEV SV)
- วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black
- มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับ เพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ พร้อมด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ ปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง, Long Mode เบาะด้านหน้า และด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว, Tall Mode เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง และ Refresh Mode เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด
มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย
ขุมพลัง Full Hybrid e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท
- รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
ขุมพลัง VTEC Turbo มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
- รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่
- สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (Brilliant Sporty Blue Metallic) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำทูโทน (Two-tone) ใหม่! (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และe:HEV RS)
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (Ignite Red Metallic) (เฉพาะรุ่นRS และ e:HEV RS)
- สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
- สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic)
- สีเทาโซนิค (มุก) (Sonic Gray Pearl)
- สีขาวทาฟเฟต้า (Taffeta White) (เฉพาะรุ่น S+)
มั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น S+, SV และ RS) พร้อมเทคโนโลยีใหม่! ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
หลากเทคโนโลยี เพื่อความสะดวก พร้อมฟังก์ชั่นล้ำสมัย
- ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และAndroid Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผลของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
- ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) และด้านหน้า 1 ตำแหน่ง (รุ่น S+)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ปุ่ม ECON
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
- แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
- ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
- พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
- พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับ และหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก
- (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
- ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อ เพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ และรถยนต์ (รุ่น RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ที่ประกอบด้วย 8 ฟังก์ชันล้ำสมัย เพื่อเชื่อมต่อ และรองรับทุกไลฟ์สไตล์