ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนต้องรับมือกับกำแพงภาษีสุดโหดจากสหภาพยุโรป รวมทั้งอเมริกา ที่มีการเพิ่มภาษีนำเข้าหลายเท่าเพื่อไม่ให้รถที่ผลิตจากจีนนำเข้าไปขายในราคาถูกได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ส่งกระทบในตลาดโดยรวม
เพราะมีข้อมูลว่า ตลาดรถ EV ของจีน คงขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดอื่น ๆ แม้ว่าเราจะยังไม่ถึงจุดที่รถยนต์ EV ของจีนครองตลาดทั้งหมด แต่ก็เป็นการเพิ่มในสัดส่วนที่น่าสนใจ
เพราะในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ รถยนต์ EV และ PHEV ของจีนประมาณ 154,000 คันถูกจำหน่ายในรัสเซีย ซึ่งมากกว่าจำนวนที่ขายได้สองเท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 โดยรวมแล้ว แบรนด์จีนสามารถควบคุมตลาดรถยนต์รัสเซียได้เกือบครึ่งหนึ่งและตลอดเดือนมกราคม- พฤษภาคม มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 92.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รถยนต์ไฟฟ้าของจีนยังจำหน่ายได้สูงเป็นประวัติการณ์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2021 พวกเขาคิดเป็น 47% ของรถ EV ในตลาดนี้ และล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 74% ตามรายงานของ South China Morning Post (เฉพาะรถ EV)
นอกจากนี้ ยังมีรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดอื่นๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น รถยนต์จากประเทศจีนจำนวน 159,621 คัน ถูกจำหน่ายในบราซิลในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ รถสันดาปและรถไฟฟ้าที่ผลิตในจีนจำนวน 34,601 คันถูกส่งออกและจำหน่ายในอิสราเอลตลอดช่วงห้าเดือนแรกของปี 2024 ในจำนวนนี้ 26,803 คันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้า PHEV ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 68% ของรถที่นำไปขายทั้งหมด
จำนวนรถยนต์จีนที่จำหน่ายใน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็เพิ่มขึ้นเป็น 114,530 คันในช่วงห้าเดือนแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2023
David Zhang เลขาธิการทั่วไปของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ระหว่างประเทศ ได้ออกมากล่าวว่าภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้บังคับให้แบรนด์รถยนต์ของจีนต้องมุ่งเน้นไปที่ตลาดอื่น ๆ แทน
โดยเขาได้กล่าวว่า “สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่สูงขึ้น จะทำให้บริษัทรถจากจีน เปลี่ยนความสนใจไปที่ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรถยนต์จีนยังคงเหนือกว่าคู่แข่งระดับโลก และได้เปรียบด้านราคา” จางกล่าว “แต่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้อย่างสิ้นเชิงกับตลาดในอเมริกาและยุโรป เพราะมีการสร้างโรงงานในหลายประเทศเพื่อเลี่ยงกำแพงภาษีแล้ว”
ที่มา carscoops