แม้ว่ากระแสรถ EV จะมาแรงทั่วโลก (โดยเฉพาะในไทย) แต่พอเวลาผ่านมาระยะหนึ่งแล้วดูเหมือนว่าผู้ที่เปลี่ยนมาใช้รถพลังไฟฟ้า อาจจะพบเจอประสบการณ์การใช้งานที่อาจจะไม่ถูกใจนักจนทำให้ยอดขายรถ EV เริ่มชะลอตัว
โดยก่อนหน้านี้มีการสำรวจจากบริษัท McKinsey & Co. ได้ระบุว่า เจ้าของรถ EV ร้อยละ 46 ในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะเลือกรถยนต์ที่ใช้พลังงานสันดาปสำหรับการซื้อครั้งต่อไป โดยเป็นข้อมูลจากการสำรวจผู้คนมากกว่า 30,000 คน
และล่าสุดมี McKinsey & Co. ได้ระบุว่ามีการสำรวจผู้ใช้งานรถ EV ใน 15 ประเทศทั่วโลก และมีข้อมูลที่น่าสนใจเช่นกัน
โดยผลสำรวจผู้ใช้รถ EV ใน ออสเตรเลีย 49% สูงถึง ตามด้วยในอเมริกา 46% ในบราซิล 38% ในประเทศจีนมากถึง 28%, เยอรมนี 24%, นอร์เวย์ 18% ในฝรั่งเศส 18%, อิตาลี 15% และในประเทศญี่ปุ่น 13% และมีการคำนวนค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 29%
แน่นอนว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการละทิ้งรถไฟฟ้า คือระบบโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จสาธารณะ ตามมาด้วยต้นทุนการเป็นเจ้าของที่สูงและความจำเป็นต้องค้นหารถยนต์ที่เหมาะสมกว่าสำหรับการเดินทางระยะไกล ซึ่งรถ EV ไม่ตอบโจทย์นี้
โดย ดร. Philipp Kampshoff หัวหน้าของ McKinsey เชื่อว่ามันในอนาคตสถานการณ์มันจะแย่ลงกว่านี้ เนื่องจากผู้ซื้อรถ EV รุ่นต่อไป “จะต้องพึ่งพาการชาร์จไฟฟ้าในสาธารณะมากกว่าในปัจจุบันมาก” อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนที่อยากกลับไปใช้น้ำมัน แต่ในทางตรงข้ามผ้ที่ไม่เคยใช้รถ EV มีแนวโน้มที่อยากจะใช้รถ EV เพิ่มเล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจคือมีคนที่สนใจรถ PHEV มากถึง 38% เพราะมันเหมือนเป็นการพบกันครึ่งทางสำหรับผู้ที่อยากลองใช้รถ EV
ที่มา Carscoops