หนึ่งในสิ่งที่คนใช้รถ EV ต้องพบเจอคือค่าซ่อมบำรุงเมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนของแบตเตอรี่ และเริ่มส่งผลออกมาแล้ว โดยข่าวล่าสุดบริษัทบริการเช่ารถ Hertz ได้ประกาศ ขายรถ EV จำนวนมากถึง 20,000 คันสู่ตลาดรถมือสอง
โดยทาง Hertz ได้บอกถึงการขายรถ EV ที่เคยเป็นรถเช่าของบริษัทว่า เพราะไม่สามารถรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้ เพราะมันมีค่าเสื่อมและค่าซ่อมสูงกว่าที่คาดไว้มาก โดยคาดว่า Hertz อาจต้องใช้เงินมาถึง 245 ล้านเหรียญ อีกทั้งลูกค้าของ Hertz ไม่ได้สนใจเช่ารถ EV มากอย่างที่คิด ทำให้ต้องทำการขายรถออกไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ส่วนเป้าหมายเดิมที่ทางบริษัทเคยตั้งไว้คือการมีรถ EV ให้บริการลูกค้ามากกว่า 25% ภายในปี 2024 ก็คงไม่ได้ตามเป้าแล้ว ส่วนรถรรุ่นที่ Hertz เอามาโละขายจะเป็น Tesla Model 3 ที่มีราคาเพียง 20,000 เหรียญ ตามด้วย Chevy Bolts ที่มีราคา 21,000 เหรียญ และที่น่าสนใจคือ BMW i3 ที่มีราคาต่ำกว่า 17,000 เหรียญ
ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดคาด เพราะก่อนหน้านี้ทาง Hertz ได้บอกว่าทางบริษัทจะเป็นนายหน้ารับซื้อรถ EV รายใหญ่ และเพิ่งทำสัญญากับค่าย Tesla และ Polestar เพื่อซื้อรถไฟฟ้ามากเกือบ 2 แสนคัน แต่เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปรถที่ผ่านการใช้งานมีค่าซ่อมแพงกว่าที่คิด รวมทั้งในตอนนี้ผู้ใช้งานรถ EV เผชิญกับความท้าทายในการหาที่ชาร์จและค่าบำรุงรักษา ทำให้ความต้องการรถ EV มีแนวโนมลดลงส่งผลให้บริษัทที่ลงทุนในรถ EV เริ่มชะลอการลงทุนลง
ที่มา theverge