ท่ามกลางกระแสรถ EV ที่มาแรงรวมทั้งกฎหมายในหลายประเทศก็มีการออกมารองรับการมาของรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคต ทำให้หลายค่ายพยายามออกรถ EV ของค่ายมาเพื่อรองรับ แต่ดูเหมือนว่าการมีทางเลือกให้ลูกค้าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับค่ายรถ
เพราะมีข่าวว่า ค่าย เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อรวมรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดเข้าด้วยกัน โดยเป็นการเปิดเผยของ Mary Barra ซีอีโอของ GM ในระหว่างการบรรยายสรุปนักลงทุน
โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเพราะในปี 2018 ทางค่าย GM ได้ตั้งเป้าว่า ในอนาคตทางค่ายจะไม่ลงทุนผลิตรถยนต์ไฮบริดโดยเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ อย่างไรตามเนื่องจากสถานการณ์ได้เปลี่ยนไป กาาเติบโตของรถไฟฟ้าไม่ได้เป็นไปตามที่คิด โดย Paul Jacobson CFO ของ GM ได้กล่าวเสริมว่า “เราพร้อมที่จะยืดหยุ่นเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค”
โดย Mary Barra ได้กล่าวต่อว่าทาง GM ไม่ได้ยกเลิกแผนที่จะยุติการผลิตรถสันดาปที่จะเกิดขึ้นในปี 2035 เพียงแต่การกลับมาผลิตรถปลั๊กอินไฮบริดเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ระหว่างรถให้ภาครัฐและเอกชนสร้างสถานีชาร์จเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ บาร์รายังบอกเป็นนัยถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่ GM ประสบความสำเร็จในต่างประเทศโดยเฉพาะในจีน โดยในปัจจุบันตัวเลือกรถไฮบริดของ GM ขายในเมริกามีเพียงรุ่นเดียวคือ Chevrolet Corvette ที่เป็นรถไฮเปอรคาร์ ส่วนรถ ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นล่าสุดที่ GM ผลิตออกมาวางขายคือ Chevrolet Volt รุ่นปี 2018 ที่ยุติการผลิตไปแล้ว ส่วนการกลับลำมาผลิตใหม่ก็ต้องรอดูว่าจะเป็นรุ่นไหน แต่ที่แน่ ๆ ดูเหมือนว่าผู้บริโภคจะมีทางเลือกมากขึ้น
ที่มา Motor1